จาตุรนต์ เผยพิรุธหลายข้อ ยังข้องใจไม่เชื่อ บิ๊กตู่ จะวางมือทางการเมืองจริง
จาตุรนต์ ฉายแสง เผยพิรุธหลายข้อ ยังข้องใจไม่เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ วางมือทางการเมืองจริง ชี้พลเอกประยุทธ์อาจมีบทบาทสำคัญต่อไปในการรักษาระบบที่ตนสร้างไว้
จากกรณณีเมื่อช่วงเย็นของวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ร่อนแถลงการณ์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และได้ประกาศวางมือทางการเมือง ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของพรรค โดยใจความตอนหนึ่ง ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า
"จากนี้ไป ผมขอประกาศวางมือทางการเมือง ด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และขอให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง ปกป้องรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป และขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไปด้วย"
จากประเด็นดังกล่าว ล่าสุด นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า "พลเอกประยุทธ์วางมือทางการเมืองจริงหรือ อ่านคำประกาศวางมือทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์แล้ว สิ่งแรกที่รู้สึกได้ก็คือคำแถลงนี้มีใจความที่เป็นเท็จอยู่มากและไม่เป็นเหตุเป็นผล
พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ยอมรับความล้มเหลว ไม่น้อมรับคำตัดสินของประชาชนที่ชี้ชัดไปแล้วว่าประชาชนไม่ยอมรับพวกที่ได้อำนาจมาจาการรัฐประหารและต้องการสืบทอดอำนาจ ที่พลเอกประยุทธ์อวดอ้างนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริง ผลงานและความสำเร็จของพลเอกประยุทธ์คือการสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศมากที่สุดในประวัติศาตร์การเมืองไทย
ทำรัฐประหาร ปกครองประเทศแบบเผด็จการสมบูรณ์แบบอยู่ถึง 5 ปี เขียนรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจของตนเองและพวกพ้อง โดยที่รัฐธรรมนูญนี้มีภูมิคุ้มกันในตัวเองให้แก้ยากที่สุดด้วย การบอกว่าตั้งใจทำพรรคการเมืองและคุยว่าพรรคประสบความสำเร็จ ซ้ำยังโอ้อวดผลงานใน 9 ปี ควรสรุปว่าดังนั้นจึงจะทำงานต่อไป แต่กลับบอกว่าขอวางมือ เป็นการพูดที่ย้อนแย้งในตัวเอง
ลาออกจากพรรคนี่เชื่อ แต่วางมือทางการเมืองยังสงสัยอยู่ เคยบอกว่าจะไม่ทำรัฐประหาร แล้วก็ทำรัฐประหาร บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน แต่ก็อยู่มาถึง 9 ปี วันนี้บอกว่าวางมือการเมือง จะเชื่อได้หรือ
พลเอกประยุทธ์อาจจะไม่วางมือทางการเมืองจริง แต่ยังมีแผนสมคบคิดขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย การลาออกตรงนี้อาจเป็นการแต่งตัวให้พรรค รทสช.ลดความเป็นพรรคของผู้นำเผด็จการลงบ้างเพื่อจะร่วมกับพรรคการเมืองในแนวทางเดียวกันจัดตั้งรัฐบาลที่ฝืนความรู้สึกของประชาชนก็ได้ และที่ร้ายกว่านั้นก็คือพลเอกประยุทธ์อาจมีบทบาทสำคัญต่อไปในการรักษาระบบที่ตนสร้างไว้และขัดขวางการทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย"