ก้าวไกล แถลง หลังศาลรธน. วินิจฉัย พิธา - ก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
พรรคก้าวไกล แถลง ยืนยันไม่ได้มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติ พิธา ชี้มีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้น
วันที่ 31 ม.ค.2566 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยนโยบายหาเสียงแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพรรคก้าวไกล ห้ามพูด-เขียน-พิมพ์ และไม่ให้มีการแก้ไขมาตราดังกล่าวในอนาคต ล่าสุดทางด้านนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมสมาชิก สส. จากพรรค ได้จัดแถลงข่าวยืนยันไม่ได้มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติแต่อย่างใด
โดยทางด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า ยืนยันว่าทางพรรคก้าวไกลไม่ได้มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติแต่อย่างใด ขณะที่ตนกังวลว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาว เช่น อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต อาจกระทบต่อความเข้าใจและการให้ความหมายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หลักการสำคัญของระบอบการเมืองไม่มีความชัดเจน แน่นอนสิ่งที่เคยกระทำได้ในอดีต ทั้งสมัยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือสมัยระบอบประชาธิปไตย อาจกลายเป็นการล้มล้างการปกครองได้ในปัจจุบันและอนาคต
คำวินิจฉัยวันนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อดุลยภาพระหว่างประชาธิปไตยกับสถาบันในระบอบการเมืองไทยในอนาคต อีกทั้งอาจทำให้สังคมไทยสูญเสียโอกาสในการใช้ระบบรัฐสภาในการหาข้อยุติความขัดแย้งหรือความเห็นต่างกันในสังคมในอนาคต
“คำวินิจฉัยในวันนี้ อาจส่งผลให้ประเด็นเรื่องสถาบันกลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยมากยิ่งขึ้นยิ่งขึ้นได้“
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลขอบคุณทุกกำลังใจ คำวินิจฉัยไม่ได้กระทบต่อพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะกระทบต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ รวมถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้และผลที่เกิดขึ้นในอนาคต เป็นเรื่องของพวกเราทุกคน ไม่ใช่ของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของอนาคตของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ด้านนายพิธากล่าวว่า ทางพรรคขอยืนยันว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นไม่มีความตั้งใจที่จะแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความมั่นคงของชาติ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตนคนเดียว ไม่ใช่เรื่องของชะตากรรมก้าวไกลอย่างเดียว แต่เป็นเรื่อง อนาคตของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย ยืนยันว่า แม้จะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมา คิดว่า สส.ทั้ง 151 คน ยังอยู่กับพรรค คงไม่ได้มีใครสละเรือออกไปก่อน