"พีระศักดิ์ พอจิต" และคณะฯ มอบหน้ากากอนามัย-อุปกรณ์จำเป็น บรรเทาความเดือดร้อน
นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภาฯ และคณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม มอบหน้ากากอนามัย และวัสดุอุปกรณ์จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
วันที่ 17 ส.ค.65 คณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา ในการเดินทางไปมอบหน้ากากอนามัย และวัสดุอุปกรณ์จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) และการสนับสนุนทุนการศึกษาและอุปกรณ์การกีฬาและนันทนาการ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ และโรงเรียนวัดเกาะ(สำลีราษฎร์อุปถัมภ์) อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
นำโดย นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา ประธานกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการวุฒิสภา และคณะ
สำหรับ การจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการฯและกล่าวให้กำลังใจกับประชาชนในพื้นที่
- คณะฯ มอบหน้ากากอนามัย เครื่องอุปโภคบริโภค และวัสดุอุปกรณ์อันจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดีอดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID -19) ให้กับประชาชน จำนวน 100 คน
- คณะออกเดินทางไปยังโรงเรียนวัดเกาะ (สำลีราษฎร์อุปถัมภ์)อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
- นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา ประธานกรรมการ และคณะฯ
พบปะพูดคุยกับผู้บริหาร คณะครู และตัวแทนเด็กและเยาวชน และให้กำลังใจ
จัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน จำนวน58 คน และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนวัดเกาะ (สำลีราษฎร์อุปถัมภ์)
ซึ่งทางด้านของ นายพีระศักดิ์ พอจิต ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ว่าชาวบ้านทุกคนนั้นมีกำลังใจที่ดีหลังผ่านวิกฤตโควิดในครั้งนี้ โดยวันนี้คณะวุฒิสภาได้เดินทางมามอบสิ่งของในการดำรงชีวิต ทั้งไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร รวมถึงสิ่งของในการใช้ป้องกันโควิด-19
สำหรับการตอบรับของประชาชนในการจัดกิจกรรมของวุฒิสภานั้น ประชาชนให้การตอบรับด้วยดีและพึงพอใจในการจัดกิจกรรมของวุฒิสภา
ด้าน นายสุชีพ คงศีล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเขตตำบลบ้านเกาะ ดังนี้
ทราบกันดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มระบาดจากตลาดกลางขายกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ข่าวการแพร่ระบาดในขณะนั้น ทำให้จังหวัดสมุทรสาคร ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ปิดเมือง ทำให้เกิดผลกระทบทั้งจังหวัด
ซึ่งตำบลบ้านเกาะก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ณ เวลานั้นในขณะการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง กระผมในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ ได้ดำเนินการตามมาตรการ ที่จังหวัดสมุทรสาครประกาศ กำหนดให้ดำเนินการและต้องทำตามมาตรการ คู่ขนานไปกับนโยบายของรัฐและจังหวัสมุทรสาคร เพราะตำบลบ้านเกาะมีแรงงานต่างถิ่นและคนต่างจังหวัดอาศัยอยู่จำนวนมาก ทำให้ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดเมือง
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ ซึ่งตำบลบ้านเกาะได้จัดตั้งร่วมกับ เทศบาลตำบลบางปลา รับผู้ป่วยติดเชื้อ เพื่อการรักษา และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมากักตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวร จัดหารถรับ-ส่ง ผู้ป่วยเข้าศูนย์เพื่อดูแล และส่งกลับบ้าน และหน้าที่ที่สำคัญขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ เราได้จัดอาหาร แจกจ่ายให้แก่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่กักตัวที่บ้านจำนวน 400 คน คนละ 3 มื้อ รวมคนละ 14 วัน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น605,250 บาท (หกแสนห้าพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน)
นอกจากนี้ยังจัดหาถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่เดือนร้อยกว่า 300 ครัวเรือน ซึ่งถุงยังชีพนี้ได้จากงบประมาณของ อบต.และภาคเอกชนร่วมสนับสนุน ทำให้ตำบลบ้านเกาะก้าวผ่านวิกฤตครั้งนั้นมาได้ งบประมาณที่เราได้ดำเนินการไปทั้งสิ้นประมาณหนึ่งล้านบาท
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดลดลง รัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ ยังคงช่วยเหลือผู้ที่ติดเชื้อและได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ตามอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล