เชิญร่วมงาน "พหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ" วัดหงส์รัตนารามฯ 25 ก.ย. - 4 ต.ค. 65
"เทศกาลกินเจ 2565" เชิญร่วมงาน "พหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ" วัดหงส์รัตนารามฯ ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565
วัดหงส์รัตนารามฯให้ความร่วมมือ อนุญาต และส่งเสริม กิจกรรมพหุวัฒนธรรม งาน "พหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ" วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ประจำปี 2565 ที่จัดโดยคณะศิษย์ที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่ร่วมกันจัดงานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ชุมชนรอบวัด และกระตุ้นคนทำความดีเริ่มต้นที่ ถือศีล และละเลิกการเบียดเบียนชีวิต ระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 นี้
พระธรรมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เปิดเผยว่า ได้อนุญาตและมอบหมายให้นายกิตติพงษ์ เตรัตนชัย ประธานกรรมการ บริษัท ธีรชัยไพศาล คอร์เปอเรชั่น จำกัด ในฐานะคนไทยเชื้อสายจีน และสืบสายตระกูลแซ่แต้ ซึ่งเป็นแซ่เดียวกันกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน พหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน - วันที่ 4 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทางวัดได้จัดงานในรูปแบบนี้
พระธรรมวชิรเมธี ย้ำว่า จุดเริ่มต้นของการจัดงานพหุวัฒนธรรมนี้ เกิดจากคณะศิษย์ที่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนจัดขึ้นเพื่อรักษาประเพณีบุญตามคติของคนไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมายาวนาน ประกอบกับวัดหงส์รัตนารามฯ ผู้บริจาคที่ดินและเป็นผู้สร้างวัดมาแต่ดั้งเดิม ก็เป็นคนจีนชื่อ "เจ้าสัวหงส์" จึงอนุญาตให้ใช้พื้นที่จัดงานได้ และเมื่อพิจารณาตามหลักศาสนาเบื้องต้นนั้น คือ การได้ให้สาธุชนได้รักษาศีล เพราะศีลเป็นพื้นฐานแห่งความดีงามทางกายวาจา และศีลเป็นบันไดแห่งความดีงามที่สูงขึ้นไป ทั้งมีการรับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ที่เรียกว่า "กินเจ" ตามความเชื่อนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับสุขภาพ อีกทั้งประชาชนโดยรอบวัดยังได้ร่วมรับประทานอาหารด้วย
นอกจากนั้น อันว่า การอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความเชื่อต่างกันบ้าง เหมือนกันบ้างนั้น หากเราทำความเข้าใจในเจตนาและสาระสำคัญของความเชื่อนั้นๆให้ถ่องแท้ และไม่เกิดความเสียหาย ก็ควรที่จะส่งเสริม เพราะการอยู่ร่วมกันนั้น ที่สำคัญคือ ต้องเข้าใจ กัน และให้เกียรติกัน อันเรียกว่า แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ย่อมทำให้เกิดไมตรีจิตแนบแน่นขึ้นอันเป็นผลดีต่อสังคมอีกประเภทหนึ่ง
ขณะที่นายกิตติพงษ์ เตรัตนชัยประธานคณะกรรมการจัดงานพหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ครั้งนี้ระบุว่า งานได้จัดขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ สืบสานวัฒนธรรมการกินเจ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และการจัดงานขึ้นในพื้นที่วัดหงส์รัตนารามฯ ซึ่งเป็นพระอารามหลวง สังกัดมหานิกาย ขณะที่มีพิธีสงฆ์จากวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นมหายาน และวัดหงส์ยังเป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางชุมชนของคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นวัตถุประสงค์ที่จะสะท้อนให้เห็นภาพของความงดงามของความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวและกลมกลืน
นอกจากนั้นในงานยังเน้นให้มีพิธีสมาทานศีล ก่อนเริ่มพิธีในทุกๆวัน วัตถุประสงค์ก็เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนหันมายึดมั่นในศีล 5 เพราะเพียงแค่การยึดถือปฏิบัติศีลได้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น
ส่วนการกินเจ นอกเหนือจากรณรงค์ให้ลดละเลิกการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ ทางคณะกรรมการยังได้จัดให้มีโรงทานตามความตั้งใจของท่านเจ้าอาวาส ที่ให้แจกอาหารเจให้กับผู้คนในชุมชนโดยรอบวัดทุกวัน วันละ 2 มื้อ ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพให้กับชุมชนโดยรอบวัด และประชาชนทั่วไปในช่วงเวลาที่ยังมีวิกฤติเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อีกด้วย
นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ขวัญและกำลังใจของชาวชุมชนโดยรอบวัดยังเป็นอีกเรื่องที่พระธรรมวชิรเมธี เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามฯ กำชับว่า จะต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ เพื่อให้วัดเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมกระตุ้นให้ประชาชนโดยรอบวัดและคนไทยก้าวข้ามผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน
สำหรับกำหนดการงาน "พหุวัฒนธรรม ถือศีล กินเจ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ประจำปี 2565" จะเริ่มขึ้นวันที่ 25 กันยายน จนถึงวันที่ 4 ตุลาคม ทุกวัน ในบริเวณศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวัด โดยวันแรก 25 กันยายน 2565 เวลา 18 นาฬิกา จะมีพิธีใหญ่จุดตะเกียง 9 ดวง และจุดธูปบูชา 5 แม่ทัพสวรรค์ ซึ่งเป็นเทพที่รักษาทิศทั้ง 4 กับอีกหนึ่งทัพหลวง จากนั้น จะเป็นพิธีเดินเวียนธูปข้ามสะพานเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับผู้เข้าร่วมพิธี
ส่วนในวันอื่นๆตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ถึง วันที่ 4 ตุลาคม จะเริ่มเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าบูชาองค์เทพ และนำองค์เทพเข้าร่วมพิธีเบิกเนตรได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของทุกวัน ส่วนช่วงเย็นเวลา 18.00 น. ก็จะมีพิธีสมาทานศีลจากพระสงฆ์วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร และ 4 วันสำคัญตามวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีนก็จะมีพระสงฆ์จากวัดเล่งเน่ยยี่เข้าร่วมประกอบพิธีด้วย พร้อมเข้าร่วมพิธีเดินเวียนธูปข้ามสะพานสร้างสิริมงคลทุกวันเช่นกัน
สำหรับวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายจะมีพิธีลอยกระทงลอยเคราะห์หลังเสร็จพิธีดับตะเกียงในเวลา 20.00 น.ด้วย