สัมมนา "อนาคตประเทศไทย Soft Power ขับเคลื่อนประเทศ"
สัมมนา “อนาคตประเทศไทย Soft Power ขับเคลื่อนประเทศ เสนอแนวคิดในการผลักดัน Soft Power ของไทย ให้ไปไกลสู่ระดับโลก
ผ่านไปแล้วกับงานสัมมนา “อนาคตประเทศไทย Soft Power ขับเคลื่อนประเทศ?” งานนี้ระดมสมองจากนักวิชาการ และภาคประชาชน รวมไปถึงพรรคการเมือง ที่แต่ละคนต่างก็นำเสนอแนวคิดในการผลักดัน Soft Power ของไทย ให้ไปไกลสู่ระดับโลก ผ่านเรื่องราวและผลิตภัณฑ์ต่างๆของไทย ทั้งที่โด่งดังอยู่แล้ว และที่มีศักยภาพสามารถผลักดันให้เกิดรายได้ และชื่อเสียงเข้าสู่ประเทศ
เริ่มต้นการสัมมนาด้วย Soft Power… เราอยู่จุดไหนในตลาดโลก? โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาที่กล่าวถึง soft Power ที่ทรงพลังจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งไทยต้องเร่งพัฒนาต่อยอด Soft Power ที่มีศักยภาพเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น โดย ประเภทของ Soft Power ที่ภาครัฐมองว่าควรสนับสนุนคือ 5 F ได้แก่ Food, Film, Fashion, Fighting, Festival
นอกจากนี้ ยังมีภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “ส่งออกของดีไทยให้เป็น Soft Power”
- ภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (SACIT)
- ดร.พันธุ์อาจชัยรัตน์ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) NIA
- เชฟชุมพล แจ้งไพร ผู้เชี่ยวชาญอาหารไทย ระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว
- สรเทพ โรจน์พจนารัชประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร
สำหรับพรรคการเมืองที่เข้าร่วมทั้ง 6 พรรค ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคชาติไทยพัฒนาพรรคเพื่อไทยพรรคไทยสร้างไทยพรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์ ต่างก็แสดงวิสัยทัศน์ ในการที่จะนำของดีของประเทศไทยไปสู่ระดับโลก มุมมองปัญหาและอุปสรรคอะไรบ้างที่จะทำให้ Soft Power ไทยยังอยู่แค่ในภูมิภาคเอเชีย หรืออยู่แค่ในประเทศไทยการดูตัวอย่างจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรม
อย่างเกาหลี ที่มีทั้งภาพยนตร์ ซีรี่ส์ อาหาร ท่องเที่ยว ก็พอจะเห็นเป็นต้นแบบในการผลักดัน Soft Power ไทยให้ไปไกลระดับโลก ซึ่งยังมีโอกาสอีกมาก สำหรับ Soft Power ไทยที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 41 ของโลก (ปี 2023) แต่ต้องมีการสนับสนุนอย่างจริงจังจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาครัฐนั่นเอง