นักการตลาดต้องรู้ B2B และ B2C คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
B2B และ B2C คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร นักการตลาดมือใหม่ที่ต้องการวางพื้นฐานที่ดีนั้นได้มาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ต่ออย่างมืออาชีพ
เริ่มต้นทำงานในสายดิจิทัลมาร์เก็ตติง (Digital Marketing) ใหม่ ๆ เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะสับสนและสงสัยว่าB2B และ B2Cคืออะไร มีบทบาทที่สำคัญอย่างไรกับการทำการตลาด และสามารถนำมาใช้ทำการตลาดให้ดีขึ้นได้อย่างไรได้บ้าง ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายกันว่า B2B และ B2C คืออะไร โดยเน้นอ่านง่าย เข้าใจง่าย นำไปทำงานต่อได้เลย เพื่อให้นักการตลาดมือใหม่ที่ต้องการวางพื้นฐานที่ดีนั้นได้มาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ต่ออย่างมืออาชีพ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่า B2B และ B2C คืออะไร จะใช่อย่างที่คิดไว้หรือไม่
B2B และ B2C คืออะไรกันแน่?
คลายข้อสงสัยกันเลยดีกว่าว่า B2B และ B2C คืออะไร ต้องบอกก่อนว่าทั้งสองสิ่งนี้นั้นเป็นชื่อเรียกการตลาด 2 แบบที่แตกต่างกัน ซึ่งอธิบายได้ดังต่อไปนี้
• B2B ย่อมาจาก Business-to-Business แปลได้ตรงตัวเลยว่าคือการทำธุรกิจระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการก็ตาม อย่างเช่นธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้ากับธุรกิจขายส่งเสื้อผ้า ที่ทำงานด้วยกัน เน้นการซื้อขายจำนวนมาก จากหนึ่งธุรกิจสู่อีกหนึ่งธุรกิจ โดยหลัก ๆ แล้วการทำการตลาดแบบ B2B นั้นจะเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อทำให้ธุรกิจอื่น ๆ สนใจและเข้ามาติดต่อเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าและบริการจากกันและกันได้นั่นเอง
• B2C เป็นคำย่อมาจาก Business-to-Customer แปลได้ตรงตัวเลยก็คือเป็นการขายสินค้าและบริการจากเจ้าของธุรกิจไปสู่ผู้บริโภค หรือถ้าจะเรียกให้ง่าย ๆ ก็คือธุรกิจค้าปลีกนั่นเอง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากผู้ผลิต จำหน่ายสินค้าเองโดยตรง หรือเกิดจากการซื้อปลีกผ่านพ่อค้าหรือธุรกิจตรงกลางก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างก็คือร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ร้านเสื้อผ้าตามห้างสรรพสินค้าทั่ว ๆ ไป โดยการทำการตลาดเพื่อซัพพอร์ตส่วนของ B2C นั้น จะเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อทำให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจมากที่สุด จนต้องกลับมาซื้อซ้ำหรือบอกต่อให้กับคนอื่น ๆ นั่นเอง
ทำการตลาดอย่างไรให้มัดใจทั้ง B2B และ B2C?
อย่างที่เกริ่นไปในตอนแรกว่า B2B และ B2C คือประเภทของการทำธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป เมื่อได้รู้กันไปแล้วว่า B2B และ B2C คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร ต่อมาก็จะเป็นเรื่องของการเลือกใช้กลยุทธ์และจุดประสงค์ในการทำการตลาดสำหรับ B2B และ B2C ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
• สำหรับการทำธุรกิจแบบ B2B หรือระหว่างธุรกิจด้วยกันเองนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดในการทำการตลาดแบบยั่งยืนก็คือ คุณภาพที่ต้องคงที่ ต้องมีความชัดเจนทั้งในด้านของราคา การจัดซื้อจัดขาย เพราะการทำธุรกิจระหว่างธุรกิจด้วยกันเองนั้น มักจะเน้นไปที่ความคุ้มค่า คุณภาพ และความโปร่งใส
• การทำการตลาดสำหรับการทำธุรกิจแบบ B2C จะแตกต่างจากแบบ B2B โดยสิ้นเชิง เพราะจะโฟกัสไปที่การดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ การจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย การจัดทำระบบ CRM เพื่อรักษาฐานลูกค้าและอีกมากมาย