ไทย แสดงบทบาทผู้นำการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค จัดงานส่งเสริมการขาย TTM+ 2024
ประเทศไทยแสดงบทบาทผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค จัดงานส่งเสริมการขาย Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+ 2024) เชิญกลุ่มประเทศ GMS ร่วมงานพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลก
ประเทศไทยแสดงบทบาทประเทศผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค จัดงานส่งเสริมการขาย Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+2024) โดยเชิญผู้บริหารหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ และกลุ่มผู้ประกอบการจากกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา กว่า 15 หน่วยงาน ร่วมแสดงความร่วมมือผลักดันเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ Greater Mekong Sub-region (GMS) ทะลุ 95 ล้านคนภายในปี 2568
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า รัฐบาลผ่านการดำเนินงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนนโยบายการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยการพัฒนา ส่งเสริม และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก
รวมถึงการสนับสนุนความร่วมมือแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มสมาชิก Greater Mekong Sub-region (GMS) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- ราชอาณาจักรกัมพูชา
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- สาธารณรัฐประชาชนจีน (เฉพาะ 2 มณฑล ได้แก่ ยูนนาน และกว่างสี)
- ราชอาณาจักรไทย
- สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวสู่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจำนวนไม่น้อยกว่า 95 ล้านคน ภายในปี 2568 นี้
ในวันที่ 3-5 มิถุนายน 2567 ททท. เชิญผู้บริหารหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ และกลุ่มผู้ประกอบการจากกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา กว่า 15 หน่วยงาน นำโดย Mr. Seila Hul ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ราชอาณาจักรกัมพูชา Mr. Khom Douangchantha อธิบดี กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว สปป.ลาว Mr. Maung Maung Kyaw อธิบดี กระทรวงการโรงแรมและท่องเที่ยว เมียนมา และ Miss Suvimol Thanasarakij – Executive Director สำนักงานประสานงานการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (MTCO)
โดยมี นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว และนางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ ททท. เดินทางร่วมกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์เพื่อสร้างประสบการณ์และมุมมอง ณ ชุมชนบ้านบางโรง ชุมชนเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวเชิงกีฬาและสุขภาพ แหล่งท่องเที่ยวสันทนาการ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวทางทะเล ก่อนจะเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในงาน Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+ 2024) ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2567 ณ จังหวัดพังงา
ประเทศสมาชิกทั้ง กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา ร่วมเปิดบูธประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในงาน TTM+ 2024 ร่วมกับผู้ประกอบการไทย จำนวนกว่า 430 หน่วยงาน โดยมีโอกาสได้พบปะกับผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวกว่า 425 ราย จาก 50 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาลที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการ ททท. ขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น Tourism Hub of ASEAN และในระหว่างการจัดงาน TTM+ 2024 นี้ ผู้บริหารหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ กลุ่ม GMS จะได้หารือถึงโอกาสในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก ทางอากาศ ทางราง และทางน้ำ โดยปรับมาตรการให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้โดยสะดวก (Ease of Travelling) ควบคู่กับการร่วมกันพิจารณากิจกรรมด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคร่วมกัน
ผู้ว่าการ ททท. เน้นย้ำว่า นโยบายการต่างประเทศของ ททท. นั้น เป็นประเด็นที่มีความสำคัญต่อการตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกเหนือจากจะสร้างความสัมพันธ์อันดีซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นให้เกิดการเดินทางแล้ว ยังจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถจะขยายธุรกิจไปยังตลาดศักยภาพใหม่ ผ่านการบูรณาภายใต้กรอบความร่วมมือ อาทิ BIMSTEC, BRICS หรือ APEC ควบคู่กับการขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคีเพื่อรักษาฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพ อาทิ ไทย-จีน ไทย-เกาหลีใต้ และ ไทย-มาเลเซีย เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ททท. ยังทิ้งท้ายว่า การบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท. กับหน่วยงานพันธมิตรในประเทศ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment: BOI) เป็นการดำเนินงานที่ ททท. ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพสินค้าและการบริการของประเทศไทยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน