อัยการ สั่งฟ้อง "ชัยวัฒน์ และพวก" ร่วมกันฆ่า "บิลลี่" โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
อัยการสูงสุด สั่งฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวก ในข้อหาร่วมกันฆ่า"บิลลี่ พอละจี" ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คืบหน้าล่าสุดคดี "บิลลี่" หรือ นายพอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย หายตัวปริศนา ตั้งแต่ 17 เมษายน 2557 จนถึง ณ วันนี้ผ่านไปกว่า 8 ปีแล้ว ในที่สุดได้เปลี่ยนสถานะจากคดีคนหาย ไปเป็นคดีฆาตกรรม ล่าสุด อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เเละพวก ในข้อหาร่วมกันฆ่า "บิลลี่" พอละจี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
วันที่ 15 ส.ค.65 สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ลงนามโดยนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ยืนยันแล้วว่า อัยการการสูงสุดได้ลงนามในความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนคือ บิลลี่ นายพอละจี รักจงเจริญ แล้ว ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565
โดยข้อหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน คือ
1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่ตามที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำไว้
2. ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจโดยให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง
3. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
4. ร่วมกันทุจริตหรืออำพรางคดี กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะมำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews