"ท็อป-ไทด์" เตรียมพา "ยอด นครนายก" ไปบ้านพักสุขสุดท้าย
"ท๊อป - ไทด์" เข้าเยี่ยม "ยอด นครนายก" ก่อนต่อสายตรงถึงลูก ๆ ขอพาพ่อยอด ไปอยู่ที่บ้านพักสุขสุดท้าย เตรียมเดินทางวันศุกร์นี้
หลังมีข่าวอดีตดารา-ตลกชื่อดัง "ยอด นครนายก" อาการป่วยทรุดหนัก นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ และนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ท็อป-ไทด์ สองพี่น้องนักแสดงฝาแฝด และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เดินทางมาบ้านพักของ ยอด นครนายก หมู่ 12 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อมาถึงได้เข้าไปพูดคุยหยอกล้อกับ ยอด นครนายก และนางบุญมี ผลประเสริฐ น้องสาวซึ่งเป็นผู้ดูแล ก่อนจะต่อสายไปหาลูก ๆ ของ ยอด นครนายก ทั้ง 4 คน ว่าจะขอพาตัวไปดูแลที่บ้านพักสุขสุดท้าย ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งลูกทั้งสี่คนก็ยินยอมให้พาพ่อไปอยู่ในความดูแล เนื่องจากมีหมอและคนดูแลอย่างใกล้ชิด โดยวันศุกร์นี้ (26) ท็อป-ไทด์ จะนำรถพยาบาลของมูลนิธิร่วมกตัญญู มารับที่บ้าน ซึ่งลูก ๆ ของ ยอด นครนายก จะร่วมเดินทางไปส่งที่บ้านพักพร้อมกัน
หลังการเข้าเยี่ยม นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นดูจากสภาพของ ยอด นครนายก แล้วรู้สึกเป็นห่วง แม้จะไม่พูดแต่ยังดีที่ฟังรู้เรื่อง เท่าที่ประเมินแล้วต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องกายภาพเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่เริ่มทำตอนนี้ อนาคตอาจเป็นผู้ป่วยติดเตียงถาวร เท่าที่ดูต้นขายังแข็งแรง แต่อาจอยู่ในอาการน้อยใจตัวเอง เลยไม่ค่อยอยากขยับลุกขึ้นเดิน แต่ก็ยังพลิกตัวเองไปมาและลุกนั่งได้โดยไม่ร้องเจ็บ รวมถึงอาจมีเรื่องจิตเวชเข้ามาร่วมด้วย ดังนั้นกำลังใจคือสิ่งสำคัญ สำหรับการดูแลนั้นไม่หนักใจ ที่หนักใจคือเรื่องลูก แต่คุณเอกพันธ์ได้คุยกับลูกทั้ง 4 คน ได้รับรู้และอนุญาตให้พาพ่อยอด ไปอยู่ในความดูแลที่บ้านพักสุขสุดท้าย
สิ่งที่ทำครั้งนี้ เนื่องจากอยู่ในวงการบันเทิงด้วยกัน ยอด นครนายก เป็นผู้ใหญ่ที่ตนเองเคารพนับถือ จึงขอรับมาดูแล ซึ่งบ้านพักหลังนี้ไม่ใช่รับแต่คนในวงการ คนทั่วไปก็รับเช่นกัน เป็นไปตามเงื่อนไขของบ้านพักที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ตนเองคาดว่า เมื่อ ยอด นครนายก ไปอยู่ที่บ้านพักสัก 6 เดือน น่าจะอาการดีขึ้น พูดเก่งขึ้น เนื่องจากจะไม่ได้นอนโดดเดียว จะมีเพื่อนที่นอนอยู่ข้างเตียง ได้พูดคุยกันได้ มีคนคอยกายภาพ ทำให้ดูไม่เหมือนถูกทอดทิ้ง จะมีคนมาดูแลทุก 2 ชั่วโมง ส่วนเรื่องการกลับมาเดินต้องขึ้นอยู่ที่กำลังใจและความพยายามของ ยอด นครนายก ก็น่าจะกลับมาเดินได้ แม้จะใช้วอกเกอร์ก็ตาม
สำหรับข้อกฎหมายในการรับไปดูแล หากเกิดเสียชีวิตนั้น บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ กล่าวว่า คนที่ตนเองรับมาดูแลกว่า 20 คน เสียชีวิตแล้ว 7-8 คน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ตนเองและที่บ้านพักก็ดูแลเหมือนญาติ หากเสียชีวิตก็ประกอบพิธีทางศาสนา ตั้งสวดศพให้ 3 วันที่วัด ลอยอังคารให้เรียบร้อย แต่หากมีญาติ ญาติก็จะมาร่วมประกอบพิธีด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดตนเองเป็นคนออกให้
ภาพ - ข่าว โดย กิจติภัฐร์ สง่ารัตนพิมาน สำนักข่าวเนชั่น จ.นครนายก