แม่ยังข้องใจ หลังเห็นร่างลูกสาวน้องจีฮุน ไร้ร่องรอยการช่วยเหลือเอาตัวรอด
แม่ยังข้องใจ เห็นร่างกายของลูกสาวน้องจีฮุน แถมไร้ร่องรอยการช่วยเหลือเอาตัวรอด แม้แพทย์จะเผยว่าเป็นรอยที่เกิดจากการช้ำก็ตาม ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากกรณีเมื่อ วันที่ 1 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา นางสาวเมทิกา โกศลปลั่งศรี อายุ 31 ปี แม่ของน้องจีฮุน และนาย ไทยอนันต์ ทองอยู่ อายุ 28 ปี พ่อของน้องจีฮุน ได้เดินทางมา ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อทำเรื่องขอย้ายร่างของน้องจีฮุน ไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ วันนี้ได้ทำเรื่องฉีดฟอร์มาลีนเพื่อรักษาสภาพศพไว้ก่อน แต่ยังไม่สามารถที่จะย้ายศพของน้องจีฮุนได้ในวันนี้ เนื่องจากพ่อและแม่ยังไม่มีเอกสารใบมรณบัตร วันพรุ่งนี้พ่อและแม่จะทำเรื่องขอเอกสาร แล้วนำมายื่นขอเคลื่อนย้ายศพน้องต่อไป
โดยครอบครัวต้องการที่จะเก็บศพของน้องเอาไว้ระหว่างที่รอกระทรวงยุติธรรมดำเนินการเข้ามาช่วยตรวจสอบ เพราะครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นทางสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า น้องจีฮุนเสียชีวิตจากอาการฮีตสโตรก ซึ่งทางครอบครัวยังไม่ปักใจเชื่อ
นอกจากนี้ บริเวณต้นแขนและขาของน้องมีร่องรอยการฟกช้ำรอยถลอกที่แขน ยืนยันว่าในตอนเช้าที่ลูกไปโรงเรียนยังไม่มีร่องรอยดังกล่าว ส่วนจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังเสียชีวิตแล้วยังไม่ทราบแน่ชัด ทางครอบครัวได้ตั้งข้อสังเกตไว้ นอกจากนี้ภายในรถไม่พบร่องรอยคราบน้ำลาย ร่องรอยการช่วยเหลือเอาตัวรอดของน้อง
- แจ้งข้อหาแล้ว คนขับรถตู้ - ครูเวร ลืม "น้องจีฮุน" ในรถตู้จนเสียชีวิต
- ครอบครัวเดินหน้า ร้อง "กระทรวงยุติธรรม" หลังพบพิรุธบนร่าง "น้องจีฮุน"
- รมว.ศึกษาธิการ สั่งตั้ง กก.สอบ ปม "ด.ญ. 7 ขวบ" ถูกลืมบนรถตู้จนเสียชีวิต
เบื้องต้นจากการพูดคุยกับแพทย์บอกว่าอาจเกิดจากการพบร่างของน้องที่นอนหันข้างอยู่ อาจจะเกิดรอยช้ำจากตรงนั้นได้ แต่ยังไม่ชัดเจนจึงต้องรอผลก่อน ซึ่งในกระบวนการตรวจสอบต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ระหว่างนี้จะยังไม่มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาใด ๆ จนกว่ากระบวนการตรวจสอบต่างๆจะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ โรงเรียนได้ติดต่อมาที่ครอบครัวบอกว่าจะชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงยังไม่พร้อมพูดคุยกับทางโรงเรียน ส่วนทางตำรวจก็ยังไม่ได้เชิญเข้าไปให้ปากคำประกอบสำนวนแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews