ฟังเสียงประชาชน สะท้อนกฎหมายจราจรใหม่5ก.ย. เพิ่มโทษจับ ปรับ เหมาะสมหรือไม่
ดีเดย์ 5ก.ย.65ใช้ยาแรง กฎหมายจราจรฉบับใหม่เพิ่มโทษจับ-ปรับคนทำผิดกฎจราจร ไทยนิวส์ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน มีความคิดเห็นอย่างไร ??
ดีเดย์กฏหมายจราจรใหม่ 5ก.ย.65 ภายหลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้กฎหมายจราจรใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 โดยเฉพาะการเพิ่มอัตราโทษทั้งจับและปรับให้มากขึ้น ล่าสุด"ทีมข่าวไทยนิวส์"ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชน เกี่ยวกับการเพิ่มโทษจับ-ปรับสำหรับกฎหมายจราจรฉบับใหม่
ในส่วนของ นายเอกพจน์ กุดสุดา ประกอบธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่าส่วนตัวเห็นด้วยเกี่ยวกับการปรับเพิ่มโทษให้แรงขึ้น เพราะกฎหมายไทยมีข้อบังคับ แต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง เป็นเหมือนกฎหมายที่ทำให้คนรู้สึกว่ามีอยู่ แต่เวลาปฏิบัติจริงไม่ได้เกิดขึ้น แต่มีการเพิ่มโทษทั้งการจับและปรับต่างๆที่แรงมากขึ้น และสามารถทำได้จริง ส่วนตัวเห็นด้วยเพราะจะทำให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และค่าปรับที่แรงขึ้นนั้นอาจทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่า เราจะต้องระมัดระวังและขับรถให้อยู่ในกฎระเบียบมากยิ่งขึ้น
ด้านนางสาวกัญญารัตน์ บุญรับส่ง นักศึกษา มองว่า การเพิ่มอัตราโทษทั้งจำและปรับเกี่ยวกับจราจรว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ส่วนตัวเห็นด้วยเพียงครึ่งเดียว เนื่องจากเมื่อมีการเพิ่มโทษให้แรงขึ้นประชาชนก็อาจจะกลัวไม่ทำผิดกฎจราจร แต่ที่ไม่เห็นด้วยอีกครึ่งนึงเพราะไม่ไว้วางใจผู้ที่ใช้กฎหมาย เพราะบางส่วนอาจจะมีการเรียกรับเงินเพื่อที่จะทำให้ผู้รับโทษนั้นได้รับโทษเบาบางลง
เช่นเดียวกับกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเปิดเผยกับทีมข่าวไทยนิวส์ว่า การเพิ่มโทษเกี่ยวกับการจราจรเป็นเรื่องที่ดีเพราะก่อนหน้านี้โทษปรับน้อยผู้ขับขี่ก็ไม่ได้สนใจกฎจราจรเท่าที่ควรเช่นเรื่องจอดในที่ห้ามจอด หรือการไม่หยุดรถบริเวณทางม้าลาย ซึ่งปัญหาที่ตามมาอาจเกิดการสูญเสียถึงชีวิตได้ ส่วนตัวคิดว่าการออกกฎจราจรใหม่ถือว่าเหมาะสมแล้ว เช่นเดียวกับการขับรถบนทางเท้า ทำให้ผู้เดินบริเวณนั้นเกิดความไม่ปลอดภัยได้
ขณะที่เรื่องของการบังคับใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี นั้น นักศึกษากลุ่มนี้ระบุว่า เห็นด้วยเพราะในต่างประเทศเขาก็ได้มีการรณรงค์เรื่องนี้เช่นเดียวกันแต่อยากฝากไปถึงภาครัฐในการเข้ามาช่วยเหลืออุดหนุนเรื่องของราคาเนื่องจากคาร์ซีทมีราคาค่อนข้างสูง ประชาชนทั่วไปอาจจะไม่ได้มีกำลังในการซื้อมาก ประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายนี้ยังเป็นกฎหมายเรื่องใหม่ที่ประชาชนจะเตรียมตัวและปรับตัวให้ได้ต่อไป
ทั้งนี้เกี่ยวกับ กฎหมายจราจรฉบับใหม่ ยืนยันเเล้วว่าโทษปรับตามอัตราเดิมก่อน เน้นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ โดยดทาง พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. /รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องโทษปรับที่กฎหมายใหม่เพิ่มอัตราโทษสูงขึ้น เพื่อบังคับใช้ให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน บางความผิดมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 4,000 บาท แต่ในห้วง 3 เดือนแรก ตร. จะยังใช้เกณฑ์ค่าปรับใบสั่งจราจรตามกฎหมายเดิมไปพลางก่อน (ตามประกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องเกณฑ์ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ พ.ศ.2563) เช่น ข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง แม้โทษสูงสุดตามกฎหมายใหม่จะปรับได้ถึง 4,000 บาท
แต่ค่าปรับตามใบสั่งจะกำหนดไว้ที่ 500 บาท เพื่อให้เวลาประชาชนได้ปรับตัวและปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ในระยะต่อไปจะปรับปรุงเกณฑ์ค่าปรับตามใบสั่งให้สอดคล้องกับกฎหมายจราจรฉบับใหม่ และบางข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือปัจจัยเกิดความสูญเสียต่อผู้ขับขี่ เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายทางม้าลาย ขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ตร. จะพิจารณากำหนดอัตราโทษปรับเป็นขั้นบันได ตามจำนวนครั้งและประวัติการกระทำผิดด้วย เช่น ทำผิดครั้งที่ 1 โทษปรับตามใบสั่ง 500 บาท หากทำผิดข้อหาเดิมเป็นครั้งที่ 2 โทษปรับตามใบสั่งเป็น 1,000 บาท เป็นต้น
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม tnews