น้าของน้องพีพี-น้องเจ้าขา เข้าให้ปากคำในฐานะพยานแวดล้อมแล้ว
น้าของน้องพีพี-น้องเจ้าขา เข้าให้ปากคำในฐานะพยานแวดล้อม ด้านทนายจี้ตำรวจเปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนให้ญาติสบายใจ หวั่นสำนวนไม่ละเอียดจนอาจทำให้ผู้ต้องหาหลุดในชั้นศาล
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ 5ก.ย.65 ที่ สภ.บางบัวทอง ทนายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนางอำนวย เพ็งเพชร น้าของน้องเจ้าขาและน้องพีพี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นพยาน ในคดีน้องเจ้าขาถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส พร้อมขอทราบความคืบหน้าของคดีน้องพีพีจากพนักงานสอบสวน
ทนายปิยณัฐ กล่าวว่า วันนี้พาน้าของน้องทั้งสองในฐานะพยานแวดล้อมมาพบพนักงานสอบสวน ตามที่ตำรวจต้องการพยานแวดล้อม ส่วนคดีนั้นอยากบอกว่า คนที่เห็นเหตุการณ์มีแค่แม่กับพ่อเลี้ยงเท่านั้น คนอื่นไม่เห็น เป็นแค่พฤติการณ์แวดล้อมเท่านั้น เป็นพยานบอกเล่าหรือได้ยินมาบางส่วน ทางน้าได้ยินเรื่องราวมาทางโทรศัพท์และได้พูดคุยกับผู้เป็นแม่โดยตรง วันนี้ตำรวจต้องการสอบพยานเราก็พามาให้ แต่เราขอทราบได้ไหมว่าทำสำนวนถึงขั้นตอนไหน ให้ทางญาติได้สบายใจว่าตำรวจได้สอบไปแล้ว ทำไว้แล้ว ไม่ใช่แจ้งข้อหาหนักไป พอถึงศาลแล้วคดีหลุดเพราะสอบไม่ละเอียด เราไม่ต้องการให้เกิดภาพแบบนั้น ทาง สภ.บางบัวทอง ให้เราได้ไหม ถ้าไม่ได้เราก็ต้องขยับมากขึ้น
ทนายปิยณัฐ กล่าวต่อไปว่า ทางเราขอดูเวชระเบียนอย่างชัดเจนที่ทางตำรวจได้มา เราพยายามขอจากโรงพยาบาลแล้ว แต่โรงพยาบาลยังไม่ออกมาให้ ต้องดูในส่วนของสำนวนว่ามีร่องรอยอะไรไหม ถ้าไม่มีก็คือไม่มี เราต้องอาศัยพยานแวดล้อมต่าง ๆ เข้ามาในคดี เพราะจะสามารถเอาผิดกับแม่และพ่อเลี้ยงได้ ทั้งนี้เท่าที่คุยกับย่าและพ่อของน้องก็มีความหวั่นใจ ตนเองเข้าใจว่าเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่ไม่ให้ดูสำนวน
แต่หลายคดีที่ตนเองทำมาเป็นร้อย ๆ คดี ปกติทางผู้เสียหายขอดูได้ น้อยมากที่จะใช้ดุลพินิจไม่ให้ดู ส่วนตัวเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนมีดุลพินิจไม่ให้เรดูได้ แต่ก็มีข้อสงสัยจากย่าและพ่อว่า การตั้งข้อหาไม่ว่าจะเป็นทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตของน้องพีพี หรือข้อหาใหม่ของน้องเจ้าขา ตำรวจมั่นใจขนาดไหนว่าจะเอาผิดได้ เราอยากขอความชัดเจนตรงนี้ คนที่เสียลูกชายไปและลูกสาวบาดเจ็บขนาดนี้ ควรใช้กฎหมายช่วยให้มากที่สุด
ด้าน นางอำนวย เพ็งเพชร น้าของน้องพีพีและน้องเจ้าขา กล่าวว่า ตนเองเคยคุยโทรศัพท์กับแม่ของน้องทั้งสอง สอบถามความเป็นอยู่สารทุกข์สุขดิบตลอด ซึ่งแม่บอกว่าน้องสบายดี ไปโรงเรียน มีคนดูแล มีพยาบาลดูแลตลอด ไม่ต้องเป็นห่วง ตนเองก็สบายใจ จนมาทราบว่าน้องเสียชีวิต ส่วนอีกคนโดนทำร้ายสาหัส รู้สึกเสียใจ ทุกครั้งไปเยี่ยมน้องเจ้าขาที่โรงพยาบาล เห็นน้องหัวบวม ร่างกายมีบาดแผลเต็มตัว ทุกครั้งน้องพยายามเรียกย่าๆๆ ก็น้ำตาซึม ตนเอง ย่าและพ่อของน้อง เคยมาติดต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา กรณีน้องพีพีเสียชีวิต เราทุกคนติดใจและไม่เชื่อว่าหลานจะเสียชีวิตโดยไม่มีสาเหตุ และไม่น่าใช่การเสียชีวิตธรรมดา เราพยายามถามความคืบหน้าของคดีแต่ไม่คืบ จึงต้องมาร้องทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือ จนค่อยๆ กระจ่างขึ้นมา และนำไปสู่การจับกุมตัวแม่และพ่อเลี้ยง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนทำร้ายหลานทั้งสองคน ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ภาพ - ข่าว โดย สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ สำนักข่าวเนชั่น จ.นนทบุรี