เฝ้าระวัง "ลุ่มเจ้าพระยา" ปริมาณน้ำแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ประกาศเตือนผู้อาศัยในพื้นที่ต่ำของ "ลุ่มเจ้าพระยา" เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา วันนี้ (12 กันยายน 2565) ว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเขื่อนเจ้าพระยา เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,787 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที / ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนที่ 16.51 เมตร/รทก. และท้ายเขื่อนที่ 13.64 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.70 เมตร ทั้งนี้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนที่ 1,730 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,715 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายชวลิต ฉลอม ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำของลำน้ำ ปิง วัง ยม น่าน มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีน้ำไหลผ่านอยู่ในเกณฑ์ 1,800 -2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และที่เขื่อนวังร่มเกล้า จ.อุทัยธานี ได้เพิ่มการระบายน้ำสู่แม่น้ำสะแกกรัง ประมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มวลน้ำดังกล่าวไหลมารวมกันที่เขื่อนเจ้าพระยามากขึ้น
ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน และมีแนวโน้มปรับเพิ่มการระบายน้ำไปจนถึง 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่จะไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามที่ทางกรมชลประทานได้ขออนุมัติ สทนช.เอาไว้ ซึ่งกรมชลประทานมีแนวทางบริหารจัดการน้ำเพิ่มเติม ด้วยการระบายน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรารวมกันประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากในพื้นที่ยังเก็บเกี่ยวไม่แล้วเสร็จ และปริมาณฝนในพื้นที่มีมาก
สำหรับการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ประมาณ 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอาจเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบเดิมอยู่แล้ว มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร แต่สิ่งที่ต้องจับตามองในช่วงนี้คือแนวโน้มฝนที่ตกทางตอนบนของลำน้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้หากมีแนวโน้มที่เขื่อนเจ้าพระยาจะระบายน้ำมากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทางกรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบต่อไป อย่างได้ก็ตามในช่วงนี้ก็ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป เฝ้าติดตามสภาพอากาศจากรมอุตุนิยมวิทยา และสถานการณ์น้ำจากรมชลประทานอย่างใกล้ชิด
ข่าว โดย วรชล ฟักขาว สำนักข่าวเนชั่น จ.ชัยนาท