ลูกสาวร้องพ่อโดนสวมสิทธิ์สอบครู ตามเรื่องมา 2 ปี ยังไม่ได้สิทธิ์ตัวเองคืน
ลูกสาวข้องใจ พ่อโดนสวมสิทธิ์สอบครู ทำเสียสิทธิ์ต่างๆของรัฐ ตามเรื่องมา 2 ปี ยังไม่ได้รับสิทธิ์ของตัวเองคืน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Paek Pim ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมจากกรณีที่คุณพ่อของตนเองนั้น โดนผู้ชายคนหนึ่งมาสวมสิทธิ์สอบบรรจุเป็นครู ทางตนเองเพิ่งมารู้ตอนพ่อ อายุ 60 ปี ทั้งแจ้งความ ร้องเรียนไปแล้ว จนคนที่แอบอ้างเสียชีวิตไปแล้ว เรื่องก็ยังไม่คืบหน้าพ่อของตนเองยังไม่ได้สิทธิ์คืน
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า ว่าด้วยเรื่องของพ่อ ฉันก็รู้สึกท้อขึ้นมาทันที
พ่อถูกครูท่านหนึ่งสวมสิทธิ์นำเลขบัตรปชช 13 หลัก ของพ่อ ไปศึกษาเล่าเรียน โดยใช้ชื่อว่า ครูปรีชา ซึ่งตัวพ่อฉันไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าตัวเองถูกสวมสิทธิ์มานานแล้ว จนตัวเองอายุ 60 ปี จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ได้เบี้ยผู้สูงอายุประมาณ 4-5 เดือนก็ถูก "เรียกคืน" เนื่องจากเลขบัตรปชช. 13 หลักของพ่อ ดันขึ้นว่าตนเองเป็นข้าราชการ ไม่สามารถรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ แต่ความเป็นจริงแล้วพ่อของฉันไม่ได้มีการรับข้าราชการแต่อย่างใด
และยังมีจดหมายเรียกเก็บภาษีมาที่บ้าน จึงได้เข้าแจ้งความ ร้องศูนย์ดำรงธรรม และได้มี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาขอถ้อยคำ และตรวจสอบครูท่านนั้น พบว่าครูท่านนั้นสวมสิทธิ์พ่อจริง เลยโดนโทษกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ตัวฉันเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยติดตามเรื่องนี้มาตลอด ไปสำนักงานไหนก็บอกให้รอ ไปฝ่ายทะเบียนราษฎร์ที่อำเภอก็ถูกปฏิเสธ ณ ตอนนี้ก็รอและติดตามเรื่องนี้มาจะ 2 ปีแล้ว รอจนกระทั่งครูปรีชานั้นได้เสียชีวิต (ขอแสดงความเสียใจ) จนทุกวันนี้พ่อของฉันเองก็ยังไม่ได้รับสิทธิ์ของตัวเองคืน สิทธิ์ที่ตนเองจะได้ สิทธิ์ต่างๆ ที่รัฐบาลให้ก็ถูกตัดสิทธิ์ สิทธิ์ที่ประชาชนคนหนึ่งจะได้ก็กลับไม่ได้
หรือจะต้องรอให้พ่อตายไปอีกคนเรื่องนี้ถึงจะจบ...
ทำไมถึงได้ถูกสวมสิทธิ์ ทำไมครูท่านนั้นถึงได้มีเอกสารของพ่อ ทำไมทะเบียนราษฎร์ที่อำเภอถึงแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ หรืออำนาจเงินเป็นใหญ่ และนี่คือข้อสงสัยของตัวฉัน? มีใครพอรู้ช่วยตอบฉันที? ฉันต้องหาความเป็นธรรมจากฝ่ายไหนดีละ?
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews