กรมการแพทย์ ชี้แจงหลังลือติดแอร์ที่หัวเตียง เสี่ยงเกิดเชื้อราในสมอง
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงแล้ว หลังแชร์ว่อนติดแอร์ที่ตำแหน่งหัวเตียงนอน จะทำให้เกิดเชื้อราในสมอง
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่องติดแอร์ที่ตำแหน่งหัวเตียงนอน จะทำให้เกิดเชื้อราในสมอง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการบอกต่อข้อมูลโดยระบุว่าห้ามติดแอร์บนหัวเตียง เพราะอาจก่อให้เกิดเชื้อราในสมองได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าตำแหน่งในการติดตั้งแอร์ ไม่มีผลต่อการเกิดเชื้อราในสมอง หรือเนื้องอกในสมอง ซึ่งการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับเชื้อรานั้นมีหลากหลายชนิดในสมอง มักเกิดจากการสัมผัสโดยตรง เช่น อุบัติเหตุทางศีรษะ มีเศษดิน เศษพืช หรือน้ำในคลอง ปะปนเข้าไปตามบาดแผล เข้าไปในระบบประสาทส่วนกลาง หรือมีการติดเชื้อราในบริเวณฐานกะโหลกศีรษะ โดยเฉพาะในโพรงไซนัส ซึ่งมักพบในผู้ที่เป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังจากเชื้อรา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
นอกจากนี้ อาจจะพบการติดเชื้อราในสมองในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อราในสมองจากการสูดหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าไปได้เช่นกัน แต่มักไม่ก่อโรคในผู้ที่มีสุขภาพหรือระบบภูมิคุ้มกันปกติ ส่วนเนื้องอกในสมองก็ไม่ได้เกิดจากตำแหน่งในการติดตั้งแอร์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การทำความสะอาดแอร์สม่ำเสมอจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นละออง และเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ ซึ่งอาจจะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ และผลกระทบจะเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะติดตั้งแอร์ในตำแหน่งใด เพราะจะมีการกระจายของลมและอากาศจากแอร์ไปทั่วตำแหน่งของห้องที่เป็นระบบปิด
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา สามารถติดตามได้ที่ www.pni.go.th หรือโทร. 02-306-9899
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ตำแหน่งในการติดตั้งแอร์ ไม่มีผลต่อการเกิดเชื้อราในสมอง หรือเนื้องอกในสมอง และเนื้องอกสมอง ก็ไม่ได้เกิดจากตำแหน่งในการติดตั้งแอร์แต่อย่างใด
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews