เปิดปาก "คะแนน" เน็ตไอดอลสาวสองคนดัง ปมเอาชื่อรุ่นน้องผู้หญิงไปใช้นาน 7 ปี
"น้องคะแนน" เน็ตไอดอลสาวสองคนดัง ตอบชัด ปมเอาชื่อรุ่นน้องผู้หญิงไปใช้ นาน7ปี อ้าง ตนเองเป็นสายมู หลังไปดูดวงมา
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงของวันนี้เลย เมื่อ "คะแนน"เน็ตไอดอลชื่อดัง ที่แท้เป็นสาวสอง หลังจากที่ "น้องจอย" น.ส.กนกญาดา จิตรอำพัน อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย ได้รับความเดือดร้อน และถูกออกหมายเรียกจากกองปราบฯ และสรรพากรเรียกเก็บภาษี ล่าสุดจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ปรึกษาหาแนวทางการดำเนินคดีกับ "คะแนน กนกญาดา"เน็ตไอดอลชื่อดัง หลังขโมยบัตรประชาชน และข้อมูลส่วนตัว ไปแสวงหาผลประโยชน์ สวมชื่อ-นามสกุล ไปรับงานต่างๆนานกว่า 7 ปี
โดยอัพเดทล่าสุด น้องคะแนน เน็ตไอดอล ไปออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 โดย ทิน โชคกมลกิจ พิธีกร พร้อมทั้งได้เชิญ น้องจอย เจ้าของชื่อซึ่งเป็นผู้เสียหายมาร่วมชี้แจงข้อเท็จจริง
ซึ่ง น้องคะแนน ชี้แจงว่า เฟซบุ๊คตนมีปัญหา มีการบล็อคเฟซของคนที่มีแชทที่ค้างไว้อยู่แล้ว เห็นว่าเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันแล้ว และมีช่วงนึงที่เฟซบุ๊คโดนปิด ก็ไม่รู้ว่าบล็อคใครไปบ้าง ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้สนใจว่ามีบล็อคใครบ้าง
เรื่องไปขอใช้ชื่อเขา คือเรื่องจริง มีรุ่นน้องที่สนิทกันกับน้องเขา "น้องคะแนน"ตอบชัด ปมเอาชื่อรุ่นน้องผู้หญิงไปใช้ ยอมรับว่าตนเป็นสายมู แล้วไปดูดวงมา เขาบอกว่าถ้ามีผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ ๆ ชื่อแบบนี้ แล้วเราเอาไปลองใช้สักปี อาจจะได้เข้าวงการ ก็เลยลอง เลยได้เอามาใช้ ก็เริ่มดีจริงๆอย่างที่เขาบอก เปลี่ยนจากชื่อเดิมของตนคือ "นัญพล บุญมี"
ด้านจากแชทที่ทักไปขอบัตรประชาชน ครั้งที่ 2 จากการถูกเฟซบุ๊กบล็อกแล้วต้องยืนยันตัวตน เลยทักไปขอ ส่วนที่เคยเอาสำเนาบัตรประชาชนไป เพื่อสมัครเฟซบุ๊ค ไม่เคยทำธุรกรรมใด ๆ ยอมรับผิดและขอโทษกับสิ่งที่ทำไป ด้วยความเป็นเด็กเลยไม่ได้คิดให้ดี มีสติในการตัดสินใจ
พอเข้าวงการ รู้สึกว่าชื่อนี้มันเริ่มตรงกับเราแล้ว ก็เลยไปเปลี่ยนชื่อที่เขตเลย เป็นชื่อนี้ กนกญาดา จิตตอำพน แต่นามสกุลต่างกัน โดยชื่อน้องจอย คือ น.ส. กนกญาดา จิตรอำพัน ส่วนที่มีปัญหากับงานโฆษณาเหล้านั้น คาดว่า อาจจะส่งไปดูแค่ชื่อ ไม่ได้สะกดนามสกุลใหม่ (จิตตอำพน กับ จิตรอำพัน)
ทั้งนี้ "น้องจอย"น.ส.กนกญาดา ผู้เสียหาย ได้กล่าวอีกว่า ตนรู้จักกับ นายนัญพล บุญมี (ชื่อจริง-นามสกุลจริง ของคะแนน ) ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 โดยเป็นเพื่อนรุ่นพี่ในโรงเรียน และต่อมาพี่เขาต้องการใช้ชื่อที่เป็นชื่อผู้หญิง และมีเอกสารใช้ยืนยัน จึงขอยืมบัตรประจำตัวประชาชนดู ก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบัตรประชาชนไว้ และก็ไม่รู้ตัวว่าโดนขโมยบัตรประชาชน ไปสวมรอยเป็นคนใหม่
หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อกัน จนปี 2563 ได้รับหมายเรียกให้ไปพบตำรวจกองปราบฯ เนื่องจากมีชื่อไปโฆษณาเชิญชวนให้เล่นการพนัน ให้ไปชี้แจ้งว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ตอนนั้นก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้ว ต่อมาได้มีเอกสารจากหน่วยงานต่างๆส่งมาให้ไปชี้แจงตลอดมา เหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจาก พี่เขาได้ถ่ายรูปโฆษณาคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยใช้ชื่อเรา
cr.ถกไม่เถียง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ tnews