สิ้นแล้ว "หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร" อริยะสงฆ์ 6 แผ่นดิน
สิ้นแล้ว "หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร" อริยะสงฆ์ 6 แผ่นดิน พระเกจิดังผู้เต็มเปี่ยมด้วยเมตตา มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 111 ปี
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเศร้า หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร หรือ พระราชมงคลวชิราทร เจ้าอาวาสวัดป่าใต้พัฒนาราม ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พระเกจิชื่อดังที่ผู้คนนับถือและศรัทธา ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา สิริอายุ 111 ปี เต็ม ย่างเข้า 112 ปี
หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร นับเป็นเกจิที่อายุยืนยาวถึง 6 แผ่นดิน รวม 111 ปี เป็นพระเกจิของจังหวัดสระแก้ว และเป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา งดงามด้วยปฏิปทาจริยาวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีลูกศิษย์หลายแขนง ทั้งนายตำรวจ ทหาร ข้าราชการ อีกมากมาย ให้ความเคารพและศรัทธาอย่างยิ่ง และเป็นที่ทราบกันกันดีของบรรดาลูกศิษย์
ท่านชอบอยู่ชีวิตเรียบง่าย ฉันอาหารแบบบ้านๆ น้ำพริก ผักต้ม ผักสด มักน้อย ชอบชีวิตสันโดษ ไม่นิยมสะสมข้าวของ สัฆทานครองอัธยาศัยมั่นคงอยู่ในธรรมวินัย มีความงดงามในวัตรประวัติ เช้าออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ลงวัตรเจริญพระพุทธมนต์อย่างเคร่งครัด และด้วยบารมีที่หลวงปู่ท่านได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พร้อมทั้งพระคาถาวิชาคมที่ท่านมี จนศิษยานุศิษย์ได้จึงขนานนามท่านว่า "อมตะเกจิ 6 แผ่นดิน หลวงปู่บุดดา แห่งวัดป่าใต้"
ประวัติ หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร
เกิดเมื่อปี พ.ศ.2454 ที่บ้านโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ครั้งวัยเด็กได้เข้าเรียนเขียนอ่านที่วัดโคกอู่ทอง กับพระอาจารย์แย้ม จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นได้ออกมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำนาแบ่งเบาภาระ และเข้าบรรพชาเมื่อปี พ.ศ.2470 พร้อมกับศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม
ท่านเข้าพิธีอุปสมบทครั้งแรก พ.ศ. 2477 ที่วัดโคกอู่ทอง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ครองเพศสมณะได้หนึ่งพรรษา ก่อนลาสิกขาออกมามีครอบครัว โดยช่วงที่เป็นฆราวาสก็ยังศึกษาเล่าเรียนธรรมะวิชาต่างๆ จากหนังสือเก่าตามตำราของพระอาจารย์หลายรูป
หลังใช้ชีวิตเป็นฆราวาส มาจนถึงปี พ.ศ.2534 แล้วเห็นแจ้งว่า ความสุขในชีวิตไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง จึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เข้าพิธีอุปสมบทครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2534 ที่อุโบสถวัดทุ่งพระ อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยมีหลวงพ่อสนธิ์ วัดทุ่งพระ ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูณรงค์ วัดเทพาวาส (ทับใหม่) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์บัวลา วัดโคกสัมพันธ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จากนั้นได้จำพรรษาที่วัดเทพาวาส ภายหลังย้ายมาสร้างเป็นวัดทับใหม่ มีหลวงพ่อดี อดีตเสือเก่า เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จึงริเริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ใหม่เจริญสุข หลังจากนั้นได้ร่วมกับชาวบ้านก่อสร้างและพัฒนา จนได้รับอนุญาตแต่งตั้งเป็นวัด คือ วัดป่าใต้พัฒนาราม และอยู่จำพรรษาที่แห่งนี้ตลอดมา
ทั้งนี้ ปี พ.ศ.2559 หลวงปู่บุดดา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าใต้พัฒนาราม , วันที่ 6 พ.ค. 2565 "พระครูปลัด บุดดา ปญฺาธโร" ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ "พระราชมงคลวชิราทร บวรธรรมทานประสิทธิ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี" สถิต ณ วัดป่าใต้พัฒนาราม จังหวัดสระแก้ว
กระทั่งวันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.45 น. หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร ได้ละสังขารถึงกาลมรณภาพ ด้วยอาการสงบ สิริอายุ 111 ปี พรรษา 31 ซึ่งจะมีกำหนดการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ พระราชมงคลวชิราทร พระราชาคณะชั้นราชสถิต (หลวงปู่บุดดา ถาวโร) ในวันที่ 15 ธ.ค.2565 เวลา 16.00 น. ณ วัดป่าใต้พัฒนาราม ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews