เศร้า พบร่างกำลังพล 1 ราย ลอยน้ำ บริเวณจุดเรือหลวงสุโขทัยอับปาง
รายงานล่าสุด เรือหลวง.บางระจัน พบร่างผู้เสียชีวิต1 นาย จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง นำร่างส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
จากกรณีอัพเดทล่าสุด วันที่ 23 ธ.ค.65 ภารกิจค้นหาเเละช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีกำลังพลผู้สูญหาย 22 นาย พบร่างผู้เสียชีวิต 1 นาย จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง บริเวณที่เรืออับปาง ขณะนี้กำลังนำร่างมาที่ท่าเทียบเรือบางสะพานในเวลา 19.00 น.
โดยทางด้าน พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เข้ารับฟังการรายงานสถานการณ์ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่สูญหายจากเหตุการณ์เรือสุโขทัยอับปาง พร้อมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ รายงานสถานการณ์และตอบข้อซักถาม โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวแก่กำลังพลศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือและกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ที่ร่วมประชุมผ่านระบบ VTC ว่า กองทัพเรือจะให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจนี้อย่างเต็มที่
โดยกองทัพเรือซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานน้ำหลวงอาบศพแก่ผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 ขอให้กำลังพลมีกำลังกายและกำลังใจในการทำงาน ต้องดูแลญาติพี่น้องของกำลังพลที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ ให้เร่งรัดการช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย
แม้ว่าการค้นหาจะมีความยากลำบาก พื้นที่ปฏิบัติการกว้าง จำเป็นต้องใช้กำลังทั้งจากกองทัพเรือ รวมถึงเหล่าทัพ ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานต่างๆของ ศรชล. ตลอดจนเครือข่ายประชาชน และเรือประมงในพื้นที่ โดยขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจ เราจะทำวันนี้เพื่อพี่น้องของเรา ทำให้ญาติผู้สูญเสีย ขอให้หาให้พบ ทำให้ดีที่สุดโดยจะสนับสนุนกำลังของ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือในทุกพื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเลอย่างเต็มที่ ขอให้นึกถึงพี่น้องของพวกเราทุกคน
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินการค้นหาในทุกจุดที่คาดว่าจะเจอผู้สูญหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเยียวยาจิตใจ ขอให้ได้ดำเนินการโดยเร็วเพราะครอบครัวผู้สูญเสียมีความทุกข์ใจขอให้ดูแลญาติพี่น้องของกำลังพลโดยคิดว่าเป็นญาติของตนเอง ขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่
ด้าน พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้สรุปการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือ จากเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ในวันนี้ (23 ธันวาคม 2565) กองทัพเรือ ได้จัดกำลังทางเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือ ต.114 เรือ ต.270 เข้าร่วมการค้นหา นอกจากนั้นยังได้ส่ง ยานล่าทำลายใต้น้ำและชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ จากเรือหลวงบางระจัน เร่งทำการสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ ในบริเวณที่เรือจม
และมีรายงานว่าเมื่อเวลา 16.15 น.เรือหลวงบางระจันได้พบร่างมนุษย์ลอยน้ำบริเวณที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางโดยในเวลา 16.30 น. ได้นำร่างขึ้นเรือและเดินทางกลับเข้าท่าเรือบางสะพานโดยมีกำหนดถึงท่าเรือสะพานในเวลา 19.00 น. โดยจะนำร่างดำเนินการส่ งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป
นอกจากนั้น โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า ได้รับรายงานจากการลาดตระเวนของเรือและอากาศยานว่า ได้มีการตรวจพบคราบน้ำมันลอยขึ้น 3 จุด จุดแรกบริเวณเรือสุโขทัยอับปางขนาดความยาวคราบน้ำมันประมาณ 1 ไมล์ จุดที่ 2 แลต 10 องศา 56.8 ลิปดาเหนือ ลอง 99 องศา 55.36 ลิปดาตะวันออก ขนาดความยาวประมาณ 0.5 ไมล์ และ จุดที่ 3 บริเวณ แลต 10 องศา 53.17 ลิปดาเหนือ ลอง 99 องศา 55.97 ลิปดาตะวันออก ขนาดความยาวประมาณ 0.2 ไมล์
โดยในขณะนี้ กองทัพเรือ ได้จัดเรือและอากาศยาน ทำการลาดตระเวนและเฝ้าติดตามการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการในการขจัดคราบน้ำมันต่อไป
ทั้งนี้ ในปัจจุบันคลื่นลมในทะเลในพื้นที่อ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง เรือขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถออกทะเลได้ในการนี้ กองทัพเรือได้ประสานกับเครือข่ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ตลอดจน ทางจังหวัด เพื่อให้ประสานกับ เครือข่ายเรือประมงในทะเล
ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ให้ช่วยกันค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาด ซึ่งในวันนี้ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม ในการนี้ กองทัพเรือ จะทำการปรับพื้นที่การค้นหาและช่วยเหลือ โดยเน้นในพื้นที่ 1-8 และ บริเวณชายฝั่ง ห่างจากจุดที่เรือสุโขทัยอับปางประมาณ 30 ไมล์ทะเล
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 105 นาย สามารถช่วยได้แล้ว จำนวน 76 นาย รักษาหายกลับบ้าน จำนวน 57 นาย รักษาตัวอยู่ ในโรงพยาบาล จำนวน 19 นาย เสียชีวิต 6 นาย และยังคงสูญหายจำนวน 23 นาย ( 1 รายที่พบล่าสุด รอการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล)
cr.สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ
ติดตามข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ Tnews