สังคม

heading-สังคม

พลิกอีก "หนุ่มโดนดูดเงินหมดบัญชี" สาเหตุที่แท้จริง ไม่ใช่เพราะสายชาร์จ

18 ม.ค. 2566 | 12:12 น.
พลิกอีก "หนุ่มโดนดูดเงินหมดบัญชี" สาเหตุที่แท้จริง ไม่ใช่เพราะสายชาร์จ

ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย เผยสาเหตุที่แท้จริง หลังหนุ่มร้องเรียนใช้งานสายชาร์จปลอมแล้วถูกดูดข้อมูล สูญเงินเกลี้ยงบัญชี

คืบหน้าล่าสุดจากกรณีที่ปรากฎข่าวพบผู้เสียหายจากการใช้งานสายชาร์จปลอมแล้วถูกดูดข้อมูลและโอนเงินออกจากบัญชีนั้น ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือสมาคมธนาคารไทย เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว พบว่ามิได้เกิดจากการใช้งานสายชาร์จปลอม  

เผยสาเหตุที่แท้จริง หนุ่มโดนดูดเงินหมดบัญชี ที่แท้ไม่ใช่เพราะสายชาร์จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แต่เกิดจากผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมที่แฝงมัลแวร์ ทำให้มิจฉาชีพล่วงรู้ข้อมูลการทำธุรกรรมของลูกค้า และควบคุมเครื่องโทรศัพท์เพื่อสวมรอยทำธุรกรรมแทนจากระยะไกล เพื่อโอนเงินออกจากบัญชี โดยอาจเลือกทำธุรกรรมในช่วงเวลาที่ผู้เสียหายไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์

ปัจจุบัน มิจฉาชีพมีวิธีหลอกลวงหลายรูปแบบ อาทิ SMS หลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแอปพลิเคชันให้สินเชื่อปลอม เป็นต้น และมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดใช้การหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมที่แฝงมัลแวร์ ซึ่ง ธปท. ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยการออกมาตรการต่างๆ ให้สถาบันการเงินต้องปฏิบัติ และร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. สำนักงาน ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่าง ๆ 
 

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินจำเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือและการตอบสนองให้เท่าทันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการพัฒนากลไกความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และขอความร่วมมือจากประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โดยสามารถป้องกันภัยในเบื้องต้นได้ ดังนี้

1. ไม่คลิกลิงก์จาก SMS LINE และ อีเมลที่มีแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือ

2. ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรม นอกเหนือจากแหล่งที่ได้รับการควบคุมและรับรองความปลอดภัยจากผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่เป็น Official Store อาทิ Play Store หรือ App Store เท่านั้น

3. อัปเดต Mobile Banking ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ หรือตั้งค่าให้มีการอัปเดตแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะมีมาตรการป้องกันการควบคุมเครื่องทางไกลรวมถึงมีการปรับปรุงพัฒนาระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

4. ไม่ใช้เครื่องโทรศัพท์มือถือที่ไม่ปลอดภัยมาทำธุรกรรมทางการเงิน อาทิ เครื่องที่ปลดล็อก (root/jailbreak) เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ ก็ได้ หรือใช้เครื่องที่มีระบบปฏิบัติการล้าสมัย เป็นต้น

5. ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้การติดตามแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว และหากลูกค้าธนาคารพบธุรกรรมผิดปกติ สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารที่ลูกค้าใช้งาน เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมในทันที โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้  ธปท. ได้เน้นย้ำให้สถาบันการเงินมีมาตรการดูแลลูกค้าทุกรายอย่างเต็มที่ตามขั้นตอนปฏิบัติที่กำหนด ซึ่งหากได้ตรวจสอบและพิสูจน์พบว่าลูกค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลส่วนตัว สถาบันการเงินต้องรีบพิจารณาช่วยเหลือและดูแลความเสียหายของลูกค้าโดยเร็วภายใน 5 วัน

ธนาคารแห่งประเทศไทย
สมาคมธนาคารไทย
วันที่ 18 มกราคม 2566

ที่มา ธนาคารแห่งประเทศไทย - Bank of Thailand

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

เปิดคำแถลง"เตีย เซ็ยฮา" ลั่นกัมพูชาไม่ถอย หลังคุย ภูมิธรรม

เปิดคำแถลง"เตีย เซ็ยฮา" ลั่นกัมพูชาไม่ถอย หลังคุย ภูมิธรรม

ผบ.เหล่าทัพผนึกกำลังพร้อมใจหนุน ทบ. ปกป้องอธิปไตยชาติ

ผบ.เหล่าทัพผนึกกำลังพร้อมใจหนุน ทบ. ปกป้องอธิปไตยชาติ

ยื่น ศปอส.ตร. สอบจริยธรรมนินทาอาการป่วย ทักษิณ ผ่านกรุ๊ปไลน์

ยื่น ศปอส.ตร. สอบจริยธรรมนินทาอาการป่วย ทักษิณ ผ่านกรุ๊ปไลน์

รวบแอดมินเพจปลอม หลอกขายที่พักสวนผึ้ง พบผู้เสียหายจำนวนมาก

รวบแอดมินเพจปลอม หลอกขายที่พักสวนผึ้ง พบผู้เสียหายจำนวนมาก

เจ้าของเงิน 12 ล้าน ทิ้งข้างกองขยะคอนโด เข้าพบตำรวจแล้ว

เจ้าของเงิน 12 ล้าน ทิ้งข้างกองขยะคอนโด เข้าพบตำรวจแล้ว