สันธนะ แฉ "ภาพลับCEOสลากออนไลน์คนดัง" ลั่น เอ็ดดี้-ไซซะนะเครือข่ายเดียวกัน
สันธนะ งัดหลักฐานเด็ดแฉต่อเนื่อง ซีอีโอสลากออนไลน์ชื่อดังกับกลุ่มเอ็ดดี้ ลั่นนายเอ็ดดี้กับนายไซซะนะเป็นเครือข่ายเดียวกัน
จากกรณี นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกมาแฉ ภาพถ่ายพยานหลักฐานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับนายเอ็ดดี้ผู้ต้องหาในคดีเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในประเทศ ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปยังต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบริษัทแพลตฟอร์มซื้อขายสลากออนไลน์ชื่อดัง ที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียกตัวเข้ามาสอบปากคำเมื่อเมื่อไม่นานมานี้
โดย นายสันธนะ เปิดหลักฐานภาพถ่ายเอ็ดดี้กับไซซะนะ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดชื่อดังที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมตัวไปเมื่อปี 2560 โดยนายสันธนะอธิบายว่านายเอ็ดดี้กับนายไซซะนะเป็นเครือข่ายเดียวกันในการลักลอบขนส่งและซื้อขายยาเสพติด และดูแลเรื่องการฟอกเงินรวมถึงทรัพย์สินต่างๆให้
ในขณะที่ดำเนินกิจการอยู่ถูกตำรวจเข้าจับกุม ทำให้นายเอ็ดดี้เข้าไปถือครองทรัพย์สินต่างๆแทน และนำไปฟอกเงินในขบวนต่างๆอาทิ
-การเปิดเว็บพนันออนไลน์
-การซื้อรถซุปเปอร์คาร์
-การซื้อบ่อนคาสิโนออนไลน์ของนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
-อสังหาริมทรัพย์
อีกทั้งยังมีภาพถ่ายของการปาร์ตี้คาสิโนซึ่งมีการนำรถซุปเปอร์คาร์เข้ามาร่วมแสดงในงานเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งนายสันธนะอ้างว่ามีข้อมูลของรถแต่ละคันและผู้ถือครองซึ่งได้นำมามอบให้ DSI ในวันนี้ด้วย
ส่วนกรณีของ CEO platform ขายสลากออนไลน์ซึ่งถูก ดีเอสไอ เรียกเข้ามาสอบปากคำก่อนหน้านี้ และเจ้าตัวอ้างว่าไม่รู้จักกับนายเอ็ดดี้มาก่อนหรือรู้จักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่จากพยานหลักฐานที่ตนนำมามอบให้ ดีเอสไอ วันนี้เป็นภาพถ่ายของ CEO คนดังกล่าวกับกลุ่มเครือข่ายของนายเอ็ดดี้ในงานปาร์ตี้ร่วมกัน
นายสันธนะ ยังมีภาพในระหว่างการเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทบริเวณสนามบิน จึงอยากถามไปถึง CEO คนดังกล่าวว่ารู้จักกันเพียงเล็กน้อยจริงหรือ จึงอยากให้ ดีเอสไอ สอบสวนดำเนินคดีให้ละเอียด เพราะเชื่อว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวถูกใช้ในการฟอกเงินของเครือข่ายนายเอ็ดดี้
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า การที่ ซีอีโอสลากออนไลน์ชื่อดังซื้อสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งในภาคเหนือและพยายามซื้อสโมสรฟุตบอลอีก 1 แห่งในภาคใต้เป็นการตั้งใจฟอกเงินที่ได้จากเครือข่ายของนายเอ็ดดี้อีกครั้งหนึ่งด้วยหรือไม่
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ tnews