อย. สั่งอายัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนำเข้าจากเกาหลี พบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สั่งอายัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนำเข้าจากเกาหลี พบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานอาหารและยาไต้หวัน พบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนำเข้าจากเกาหลี “Nongshim Shin Ramyun Black Bowl (Tofu Kimchi)” มีสารกำจัดศัตรูพืช “เอทิลีนออกไซด์” ตกค้างในบรรจุภัณฑ์ผงปรุงรส ในปริมาณ 0.075 มก./กก. โดยไม่ได้ระบุรุ่นการผลิตของสินค้าที่พบปัญหานั้น
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีการนำเข้าบะหมี่ดังกล่าวมาจำหน่ายในประเทศไทย ในชื่อ ชิน ราเมียน แบล็ค โบวล์ โทฟู กิมจิ (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมเครื่องปรุงรสเผ็ดผสมเต้าหู้และกิมจิ ถ้วยใหญ่) (ตรา นงชิม) เลขสารบบอาหาร 10-3-07945-5-0811 ผู้นำเข้าคือ บริษัท โปรไทย จำกัด เลขที่ 359 ซอยลาซาล 22 ถนนสุขุมวิท 105 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร โดยบริษัทฯ มีการนำเข้ามา 2 ครั้ง คือ รุ่นวันหมดอายุ 4 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 480 ถ้วย และรุ่นวันหมดอายุ 8 พฤษภาคม 2566 จำนวน 2,560 ถ้วย เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค อย. ได้ดำเนินการอายัดสินค้าทั้งหมดและเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจวิเคราะห์ และจะแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ให้ผู้บริโภคทราบโดยเร็ว
ทั้งนี้ เอทิลีนออกไซด์ (Ethylene oxide) เป็นวัตถุอันตรายทางการเกษตรชนิดที่ 4 จึงต้องไม่พบการตกค้าง หากตรวจพบในอาหาร จัดเป็นอาหารผิดมาตรฐาน การผลิต นำเข้า จำหน่ายอาหารดังกล่าว มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ขอให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในรุ่นวันหมดอายุดังกล่าว
นอกจากนี้ ประชาชนควรเลือกซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบฉลาก ต้องแสดงรายละเอียด ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งของสถานที่ผลิต หรือผู้นำเข้าและประเทศผู้ผลิต น้ำหนักสุทธิ ส่วนประกอบที่สำคัญ วันเดือนและปีที่ผลิตและหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน เป็นต้น
หากผู้บริโภคไม่แน่ใจในคุณภาพหรือความปลอดภัยของอาหาร หรือพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค สามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. 1556 Line @FDAThai , Facebook FDAThai หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รองเลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews