บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินเข้าวันไหน เดือนกุมภาพันธ์ 2566
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน เดือนกุมภาพันธ์ เงินเข้าวันไหน ได้ค่าอะไรบ้าง เช็กรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่นี่
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รอบใหม่ใกล้ประกาศผลลงทะเบียนแล้ว ซึ่งหากใครผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะได้รับสิทธิ์และรอบนี้สามารถใช้บัตรประชาชนแทนบัตรคนจนได้เลยค่ะ ไปดูเงื่อนไข และตรวจสอบรายละเอียด บัตรคนจน เงินเข้าวันไหน เดือนกุมภาพันธ์ 2566
สำหรับ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังใช้สิทธิบัตรคนจนในเดือน ก.พ. 2566 ได้ตามปกติ เนื่องจากกระทรวงการคลังจะทยอยประกาศผลลงทะเบียนรอบใหม่ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และต้องมีการยืนยันตัวตนที่ธนาคาร จึงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ถึงจะประกาศยกเลิกใช้บัตรคนจนใบเดิม
ดังนั้น การใช้สิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ จะเริ่มใช้ได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิบัตรคนจนในครั้งนี้จะต้องใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินเข้าวันไหน เดือนกุมภาพันธ์ 2566
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566
วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
ค่ารถโดยสารสาธารณะ
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน
วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรคนจนทั่วไป 100 บาท/3 เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
หมายเหตุ : กระทรวงพลังงานมอบของขวัญปีใหม่ 2566 โดยขยายเวลาให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2566
วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับร้านค้า หาบเร่ แผงลอย 100 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ประกอบการร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
หมายเหตุ : กระทรวงพลังงานมอบของขวัญปีใหม่ 2566 โดยขยายเวลาให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ร้านค้าหาบเร่ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2566
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566
จากเดิมมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้หมดเขตในเดือนกันยายน 2565 แต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 7 เดือน คือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - เมษายน 2566 เท่ากับว่าผู้ถือบัตรคนจนจะยังได้รับความช่วยเหลือ ดังนี้
ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
หมายเหตุ : ต้องนำใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าและใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาไปชำระเงินตามปกติก่อน จากนั้นหน่วยงานจะส่งรายชื่อผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาในวงเงินที่กำหนดให้กรมบัญชีกลาง สั่งจ่ายเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่อง e-Money ของเดือนถัดไป
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : เป็นผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ เพิ่มอีก 200 บาท (จากเดิม 800 บาท) รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้
800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีวันที่ 22 ของทุกเดือน สามารถถอนเป็นเงินสด หรือเก็บสะสมในเดือนถัดไปได้
ขอบคุณ : กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance , กรมบัญชีกลาง