"สารวัตรซัว" โผล่ตุรกี เคลื่อนไหวล่าสุด โพสต์เดียวสะเทือน
โพสต์เดียวมีสะเทือน"สารวัตรซัว" เคลื่อนไหวล่าสุดโผล่ตุรกี หลังถูกนายชูวิทย์ แฉเอี่ยวพนันออนไลน์ จนโดนออกจากราชการไว้ก่อน
สืบเนื่องมาจากกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉ เรื่องนายบ่อน นายตำรวจ "ซัว เป็นต่อกรุ๊ป" ของ "สารวัตรซัว"พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล โดย "สารวัตรซัว แห่งเป็นต่อกรุ๊ป" มีอาณาจักรเติบโตมีเงินหมุนเวียนเป็นหมื่นล้าน เป็นเจ้าพ่อเว็บพนันตัวจริงใหญ่ยิ่งกว่า มาเก๊า 888 ที่ทาง "ดิว" อริสรา ทองบริสุทธิ์ ออกมาแฉพี่น้องตระกูล 4บ. จนทำให้ ทางผบก.ยธ เซ็นคำสั่งให้ "สารวัตรซัว"ออกจากราชการไว้ก่อน ไปก่อนหน้านี้
โดยหนังสือคำสั่งให้ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล ตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัด กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ออกจากราชการ กรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ในเรื่องละทิ้งหน้าที่ปมขาดราชการเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุสมควร
ล่าสุดวันที่ 14 ก.พ.66 "สารวัตรซัว" เคลื่อนไหวล่าสุด โพสต์ไอจี เผยภาพขณะอยู่ตุรกี พร้อมข้อความ ขอบคุณมากสำหรับการทำตลาดให้ฟรี ขอให้ทำต่อไป
เปิดภาพ พี่แมว เจอพี่ยุเจ้าสาว หลังเดินเท้าพิสูจน์รักแท้ 1,200 กม.
สุดเศร้า น้องดิว หนูน้อย 1 ขวบ ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายสาหัส เข้า ICU เสียชีวิตแล้ว
รวบแล้ว สาวยวัย 26 มือปล่อย "คลิปหลุดครูศิลปะ" ขายทวิตเตอร์
ด้านกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ "มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป" ของ สารวัตรซัว พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล เมื่อวันที่ 11ก.พ.66 ที่ผ่านมา หลังจากที่ นายชูวิทย์ แฉว่าการจัดตั้งบริษัทต่างๆมาเพื่อฟอกเงินที่ได้มาจากการพนันออนไลน์ ก่อนจะพบว่าไม่ปรากฏการจดทะเบียนมูลนิธิตามกฎหมาย ซึ่งกรมการปกครอง โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในข่าวสาร
เนื่องจากพบว่า เว็บพนันดังกล่าวอาจมีการแอบอ้างใช้ชื่อและจัดตั้งมูลนิธิชื่อ “มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด” ซึ่งในเบื้องต้นตรวจสอบในฐานข้อมูลแล้วพบว่า “ไม่ปรากฏการจดทะเบียนมูลนิธิในชื่อดังกล่าว” ทำให้การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณชนของมูลนิธินี้เข้าข่ายผิดกฎหมาย
โดยสถานที่ตรวจสอบก็คือ บ้านเลขที่ 9 อาคารเป็นต่อกรุ๊ป ซอยรามอินทรา 5 แยก 15 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของมูลนิธิเป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด โดยจากการตรวจสอบพบว่า ไม่ปรากฏป้ายชื่อมูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้ารั้วหรือจุดใด ๆ ของสถานที่นั้น
พร้อมกันนี้ได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม ได้พบว่าปรากฏป้ายชื่อบริษัทหลายบริษัทติดตั้งไว้ที่รั้ว/ประตูทางเข้าด้านหน้าอาคาร เจ้าหน้าที่จึงสอบถามพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่ปรากฏป้ายชื่อที่อาคารดังกล่าว จึงได้ทราบข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติม โดยพบว่ามีผู้บริหารที่เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลนิธิเป็นต่อ กรุ๊ป เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าตัว ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ให้ข้อมูลโดยยอมรับว่า มูลนิธิ เป็นต่อ กรุ๊ป ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิแต่อย่างใด เป็นเพียงการรวมกลุ่มกันของผู้บริหารที่รู้จักสนิทสนมกันในหลายบริษัท เพื่อทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์”
ที่มา.ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์/ สรยุทธ สุทัศนะจินดา
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews