ลูกชายเศรษฐี พร้อมพ่อตาแม่ยาย โดนแจ้งข้อหา ส่วนสะใภ้ยังรอด
ลูกชายเศรษฐี พร้อมพ่อตาแม่ยาย โดนแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนสะใภ้รอด ยังไม่สามารถตั้งข้อหาได้ เนื่องจากพยานยังไม่ยืนยันแน่ชัด
ความคืบหน้ากรณี นายสมศักดิ์ รุ่งรักษาธรรม เศรษฐี วัย 67 ปี แจ้งความโดน ลูกชายและลูกสะใภ้ และครอบครัวของลูกสะใภ้ วางยากักขังหน่วงเหนี่ยวมานานกว่า 2 ปี และยังจัดฉากร้องต่อศาลให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกยักย้ายทรัพย์สินผู้เป็นพ่อกว่า 65 ล้านบาท
ซึ่งตำรวจได้นำตัว เศรษฐีวัย 67 ปีไปชี้จุดที่โรงผลิตน้ำแห่งหนึ่งใน ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ของนายประสงค์พ่อตาแม่ยาย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกกักขัง กรอกยาสลบ สุดท้ายตนเองถูกแยกห้องกักขังกับภรรรยา จนภรรยาตนเองเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ
ล่าสุด ก็มีรายงานว่า พล.ต.ต. นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า นายธวัชชัย ลูกชายเศรษฐีวัย 67 ปี พร้อมด้วย น.ส.เจน ลูกสะใภ้ , นายประสงค์ และน.ส.พรทิพย์ พ่อตาและแม่ยาย รวมถึงลูกสาวของนายประสงค์อีก 2 คน รวมทั้งหมด 6 คน ได้ติดต่อขอเข้าพบตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ปากคำในฐานะพยาน ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำจึงมีการสอบสวนเสร็จสิ้น โดยสอบปากคำอย่างละเอียดในทุกๆ ด้าน
ในเรื่องของคดีดังกล่าว ผู้เสียหาย แจ้งความประสงค์เอาผิด นายธวัชชัย นายประสงค์ และน.ส.พรทิพย์ ในฐานความผิดกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และจิตใจ กับบุคคลทั้งสามนี้จากคำให้การของผู้เสียหาย
ประกอบกับหลักฐานที่เข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว รวมถึงพยานทั้ง 10 ปากที่ได้สอบสวนไปก่อนหน้านี้ ทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อได้ว่า ทั้ง 3 คนนี้กักขังหน่วงเหนียวเศรษฐีวัย 67 ปี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา
ส่วน น.ส.เจน ลูกสะใภ้ และพี่น้องของ น.ส.เจน อีก 2 คนนั้น เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน และไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งหลังสอบสวนบุคคลทั้งหมดเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ จัดทำประวัติ ก่อนที่ นายธวัชชัย นายประสงค์ และน.ส.พรทิพย์ ได้ขอประกันตัวไปเพื่อต่อสู้คดี
อย่างไรก็ตาม ในชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าทั้ง 3 คนนั้น แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน จึงให้ประกันตัวไป ในวงเงินทรัพย์สินคนละ 50,000 บาท เพื่อออกไปต่อสู้คดีในกระบวนการของศาลต่อไป
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews