เปิดผลชันสูตรเบื้องต้น พ.ต.ท. “สารวัตรกานต์” พบสารเสพติดในเลือด
เปิดผลชันสูตร การเสียชีวิต “พ.ต.ท.กิตติกานต์” คลุ้มคลั่งกราดยิงสายไหม เบื้องต้นพบเสียเลือดมาก และกัญชาในกระแสเลือด
จากกรณีที่ พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ อายุ 51 ปี ตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้มีอาการคลุ้มคลั่งและยิงกราด ภายในบ้านมั่นคง แยกซอยสายไหม 46 แขวงและเขตสายไหม กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมนานกว่า 28 ชั่วโมง ก่อนที่สารวัตรคลั่งจะถูกยิงเข้า 6 จุด และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลเมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. 2566
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองผบ.ตร.ร่วมกับทีมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลภูมิพล ได้เปิดเผยผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของสารวัตรคลั่ง ซึ่งทางญาติได้ตั้งข้อสงสัยว่าการปฏิบัติการเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องหรือไม่
โดย พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมประชุมกับ พันตำรวจเอกรังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสายไหม ทีมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อมารับผลการชันสูตรประกอบสำนวนการเสียชีวิต
ในส่วนของผลการชันสูตร การเสียชีวิตของ พันตำรวจโทกิตติกานต์ แสงบุญ เบื้องต้นพบสาเหตุการเสียชีวิตจากพิษบาดแผล จากกระสุนปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการระงับเหตุ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องรอผลชันสูตรให้ครบถ้วน จึงจะสามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้
โดยรายงานการชันสูตรเบื้องต้น
1. การเสียชีวิตของสารวัตรกานต์ คือ เสียเลือดในช่องท้อง
2. พบสารเสพติดในเลือด คือ กัญชา และกำลังตรวจสารเสพติดอื่นๆเพิ่มโดยละเอียด
ทั้งนี้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ได้เปิดเผยว่า อาจจะต้องรอเวลาประมาณ 2 วันในการรับทราบผลการชันสูตร ซึ่งทางญาติได้ตั้งข้อสงสัยว่า ว่าการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องหรือไม่ โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่ามีการประเมินอาการทางจิตเวชของบุคลากรที่มีความเสี่ยงต่อการก่อเหตุ และผู้เสียชีวิตก็มีความเชื่อส่วนตัวที่อาจตั้งข้อสังเกตได้ว่ามีอาการทางจิตเวช รวมถึงการใช้กัญชา ก็อาจเป็นต้นเหตุของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยจะต้องรอผลการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง