สังคม

heading-สังคม

จับคาหนังคาเขา "เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี" เรียกรับเงินกว่า 3.2 ล้าน

04 เม.ย. 2566 | 21:29 น.
จับคาหนังคาเขา "เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี" เรียกรับเงินกว่า 3.2 ล้าน

ตำรวจรวบ "เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี" เรียกเงินแลกรับผลประโยชน์ ความเสียหายกว่า 3.2 ล้านบาท พร้อมของกลาง อ้างสิ่งของที่รับมาจากผู้เสียหายนั้นตนคิดว่าเป็นเอกสาร

จากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.  และกองป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ร่วมกันจับกุม นายประมวล อายุ 57 ปี พนักงานเขตราชเทวี ดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

จับคาหนังคาเขา เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี เรียกรับเงินกว่า 3.2 ล้านบาท

   ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” มาตรา 157

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย กรณี เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้ บริษัทฯ เข้าไปชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน

จับคาหนังคาเขา เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี เรียกรับเงินกว่า 3.2 ล้านบาท

 

พฤติการณ์ กล่าวคือ จนท. สนง.เขต แจ้งให้ บริษัทฯ เข้าไปชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน ตามแบบ (ภ.ร.ด.๒) และผู้เสียหายได้มอบหมายให้ ตัวแทนซึ่งเป็นพนักงานของ บริษัทฯ เข้าไปติดต่อและต่อมาตัวแทนของผู้เสียหายได้กลับมาแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่า

 

  จนท.สนง.เขตราชเทวี ได้บอกว่า บริษัทฯ จะต้องชำระค่าภาษีประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่หากนำเอาเงินมาให้ จนท.สนง.เขตราชเทวี รายดังกล่าว จำนวน 3 ล้านบาท จะเก็บเรื่องดังกล่าวไว้ ทำให้ บริษัทฯ ไม่ต้องชำระเงินจำนวน 40 กว่าล้านบาท”  

จับคาหนังคาเขา เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี เรียกรับเงินกว่า 3.2 ล้านบาท

 จากนั้นบริษัทฯ ได้ให้ตัวแทนติดต่อแจ้งว่ายอดภาษีที่แจ้งมานั้นมีจำนวนสูงเกินจริงซึ่ง จนท.สนง.เขต ได้ตอบว่าเงินที่เคยเสนอไปจำนวน 3 ล้านบาท ขอเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 3,500,000บาท เพราะต้องเอาไปแบ่งกรรมการอีกหลายท่าน ต่อมาผู้ร้องเรียนแจ้งว่าจะนำพนักงานบัญชีของบริษัทฯไปขอทราบรายละเอียด

 

ก็ได้คำตอบว่าสามารถลดราคาลงได้เหลือ 3.2 ล้านบาท ผู้ร้องเรียนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของ จนท.สนง.เขตราชเทวีเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงมาร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบและในขณะที่ผู้เสียหายได้ให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนอยู่นั้น ตัวแทนของผู้เสียหายได้โทรศัพท์เข้ามาหาและแจ้งว่าได้นัดหมายกับ หัวหน้าฝ่ายรายได้เขตราชเทวี คนดังกล่าวเพื่อให้เข้ามาพบผู้เสียหายในวันศุกร์ที่ 31มี.ค.66 เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมฯ เพื่อรับฟังรายละเอียดจาก จนท.สนง.เขตด้วยตนเอง 
         

 กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ประสานและวางแผนการจับกุมร่วมกับผู้เสียหายเพื่อกำหนดแนวทางและรวบข้อมูลพยานหลักฐาน จนกระทั่ง จนท.สนง.เขตฯ ได้ขับรถมาที่โรงแรมฯ เพื่อพบตัวแทนผู้เสียหายเพื่อขึ้นไปพบกับผู้เสียหาย โดยทั้งสองได้พูดคุยเพื่อเจรจาต่อรองกัน สรุปได้ว่าผู้เสียหายต้องจ่ายเงินทั้งสิ้นเป็นเงินจำนวน 3.2ล้านบาท พร้อมทั้งนัดหมายส่งมอบเงินให้กับ จนท.สนง.เขตฯ ในวันที่ 4 เมษายน 66


   ต่อมาวันที่ 3 เมษายน  เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย 
เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวนทั้งสิ้น 3.2ล้านบาท มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ กก.๑ บก.ปปป.เพื่อเป็นพยานหลักฐาน 

จับคาหนังคาเขา เจ้าหน้าที่เขตราชเทวี เรียกรับเงินกว่า 3.2 ล้านบาท

จากนั้นในวันที่ 4 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย  เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยให้ ผู้เสียหายนำเงินสดซึ่งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว นำมามอบให้ จนท.สนง.เขตฯ ที่ โรงแรมฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ฯ เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบและเมื่อผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินแล้ว จนท.สนง.เขตฯกำลังเดินทางกลับเมื่อถึงบริเวณลานจอดรถโรงแรมฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเพื่อเข้าทำการตรวจค้น ขณะทำการตรวจค้น

 พบว่ามีเงินสด 3,200,000 บาท อยู่ภายในถุงกระดาษสีขาว ที่จนท.สนง.เขตฯ ถือติดตัวมาด้วย เจ้าหน้าที่ฯจึงทำการตรวจสอบเงินสดต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่าหมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ นำส่ง พงส.กก.๑ บก.ปปป. โดย พงส. บก.ปปป. จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป 


   จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดในข้อกล่าวหา โดยให้การว่าสิ่งของที่รับมาจากผู้เสียหายนั้นตนคิดว่าเป็นเอกสารแต่รับว่ารับสิ่งของดังกล่าวมาจากผู้เสียหายจริง

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับเพิ่ม คนไทยในปอยเปต เอี่ยวพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับเพิ่ม คนไทยในปอยเปต เอี่ยวพนันออนไลน์

แม่บ้านสุดทน แฉเพื่อนรักทำคุณไสยใส่ กล่าวหาว่าแย่งสามี

แม่บ้านสุดทน แฉเพื่อนรักทำคุณไสยใส่ กล่าวหาว่าแย่งสามี

คุณเสี่ยง ภูมิแพ้ไรฝุ่น หรือไม่? รู้ไว้ ป้องกันได้ทัน.

คุณเสี่ยง ภูมิแพ้ไรฝุ่น หรือไม่? รู้ไว้ ป้องกันได้ทัน.

เปิดภาพหาดูยาก จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ ใกล้สูญพันธุ์

เปิดภาพหาดูยาก จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ ใกล้สูญพันธุ์

สีเสื้อต้องเลี่ยง 17 มีนาคม 2568 วันจันทร์ไม่ควรใส่สีอะไร

สีเสื้อต้องเลี่ยง 17 มีนาคม 2568 วันจันทร์ไม่ควรใส่สีอะไร