'โหรใหญ่' ชี้ชัด นายกฯ คนใหม่เพศไหน วันเดือนเกิดรวมได้เลข 8
โหรใหญ่ เผย ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปเป็นผู้หญิง ตัวสำรองจะเป็นผู้ชาย มีวันเดือนปีเกิดมีตัวเลขนับรวมกันเป็นเลข 8
วัน 21 เมษายน 2566 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โพสต์ข้อความพร้อมภาพในเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่า... มจ.จุลเจิม ยุคล นัดโหรใหญ่บุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต สว.สอบถามเกี่ยวกับดวงเมืองและวิชาเลขศาสตร์ท่านโหรใหญ่ สรุปว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปเป็นผู้หญิง ตัวสำรองจะเป็นผู้ชาย ซึ่งมีวันเดือนปีเกิดมีตัวเลขนับรวมกันเป็นเลข 8 ท่านรับสั่งถามผมเกี่ยวกับช่วงเวลา 8 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ทำไมจึงมีนางสงกรานต์เข้าเวรเพียง 5 องค์ และปีนี้ พระนางกิมิทาเทวีเสด็จเข้าเวร อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง?
ก็กราบทูลท่านไปว่า การเข้าเวรของนางสงกรานต์นั้นมีมาแต่คัมภีร์โบราณยุคอินเดียใต้รุ่งเรือง ในช่วง 8 ปีกว่าของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์นั้น นางสงกรานต์ที่เข้าเวรปีซ้ำ 2 ปี มี 3 องค์ คือ พระนางกาลกิณีเทวี พระนางรากษสเทวี พระนางโคราคะเทวี ไม่ต้องอธิบายคุณลักษณะของแต่ละองค์ เพราะดูจากพระนามของนางสงกรานต์ก็จะรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร
อีก 2 องค์เป็นนางสงกรานต์ที่ซื่อใส บ้องตื้น และอีกองค์หนึ่งเป็นนางสงกรานต์ที่ไม่เอาไหน ส่วนปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน เป็นมหาสงกรานต์ พระนางกิมินาเทวี ซึ่งเป็นนางสงกรานต์แห่งความเปลี่ยนแปลงจะเข้าเวร หลังจากที่พระนางเคยเข้าเวรมาครั้งล่าสุดเมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งเป็นปีที่คุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี!!!
ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศไทยหรือการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทย น่าจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!! ประเทศไทยมีโอกาสที่จะได้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้หญิงสูงมาก แต่ในทางโหราศาสตร์นั้น จะแย้งกันเพราะว่าที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ชาย ที่จะเป็นศูนย์รวมความสามัคคี ของคนในชาติในทางโหราศาสตร์ขณะนี้ พระอาทิตย์ และพฤหัสบดี โคจรเข้าทับลัคณาดวงเมือง ซึ่งจอมอสูรราหูโคจรย้อนจักรกุมดวงเมืองมาก่อน ความมืด แห่งฤทธิ์อสูร ความหลงมัวเมาในอำนาจ และความชั่วร้ายทั้งหลายในบ้านเมือง กำลังถูกรัศมีอันเจิดจ้าของพระสุริยัน และเทพแห่งธรรม คือดาวพฤหัส เข้ามาทำลาย โดยมีมวลชนจำนวนมากคือพระเสาร์ขับเคลื่อนโยคหลังลัคนาดวงเมืองอยู่ในราศีกุมภ์
หม่อมเจ้าจุลเจิมทรงรับสั่งถาม เกี่ยวกับ การจุติของผู้มีบุญญาธิการชาวสงขลาคนที่ 3 ตามคำพยากรณ์ของพระหลักเมืองสงขลา เมื่อครั้งตั้งศาลหลักเมืองสงขลา ซึ่งอุบัติมาแล้ว 2 คน คือเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์ ประธานองคมนตรีและผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและนายกรัฐมนตรี ส่วนคนที่ 3 นั้นมีบุญญาธิการมากที่สุดเป็นสตรี ขณะนี้ชาวสงขลาก็ร่ำลือกันทั่ว ว่าอุบัติแล้วและเฝ้ารอ ต้อนรับท่านผู้มีบุญญาธิการคนที่ 3 ว่า สักวันหนึ่งจะไปสักการะพระหลักเมืองสงขลา ตามรอยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย
ท่านยังรับสั่ง เกี่ยวกับพระบรมราโชบายของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้ง ส่งสมเด็จปู่ของท่าน คือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศ ไปเป็นอุปราชเมืองสงขลา ทำให้การปกครอง เมืองสงขลาและจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดแหลมมลายูเป็นไปโดยเรียบร้อย ได้รับการยอมรับนับถือ จากเจ้าเมืองทั้งหลายในยุคนั้นอย่างดียิ่ง และเนื่องเพราะพระองค์ท่านทรงจบกฎหมายจากอังกฤษ จึงทรงสามารถประสานงานรับมือกับแรงกดดันของอังกฤษได้อย่างเต็มที่ หาไม่แล้วเราก็จะเสียดินแดนตั้งแต่ชุมพรตลอดแหลมมลายูไปแล้ว!!!
หม่อมเจ้าจุลเจิม และคณะขอให้สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน ช่วยประสานงานเพื่อเสด็จประเทศจีน เพื่อทรงเยี่ยมนายทหารคนสำคัญของจีน และเยี่ยมประธานธนาคารโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย หรือaiib ด้วย#เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน