สังคม

heading-สังคม

มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง"โควิด FU.1" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

18 พ.ค. 2566 | 15:29 น.
มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง"โควิด FU.1" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

เฝ้าระวัง โควิด19 สายพันธุ์ใหม่ FU.1 หรือ XBB.1.16.1.1 แพร่เชื้อไวกว่าเดิมถึง50% แข็งแกร่งขึ้น ต้านทานภูมิคุ้มกันของร่างกาย ห่วงคนภูมิตก ต้องเร่งฉีดวัคซีนกระตุ้น


   จับตาเฝ้าระวัง โควิด-19สายพันธุ์ใหม่ FU.1 หรือ XBB.1.16.1.1 แพร่เชื้อไวกว่า XBB.1.16 ถึง 50% กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงาน ในไทยพบแล้ว 1 คน  มีการแพร่ระบาดเร็ว แต่ยังไม่พบความรุนแรงของโรค จนส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง\"โควิด FU.1\" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

   18 พ.ค.66  น.พ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประสานความร่วมมือเฝ้าติดตาม “FU.1” หรือ XBB.1.16.1.1 หลานของ XBB.1.16 ซึ่งเติบโตและแพร่ระบาดสูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50% โดยไทยพบแล้ว 1 คน ว่า เป็นข้อมูลที่กรมวิทย์ฯ รายงานเข้าสู่ฐานข้อมูลโลก หรือ GISAID ซึ่งกรมมีการติดตามและสุ่มตรวจถอดรหัสสายพันธ์ุอยู่ต่อเนื่อง เท่าที่ติดตามแม้จะมีการแพร่ระบาดเร็ว แต่ยังไม่พบความรุนแรงของโรค จนส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตมาก

 

มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง\"โควิด FU.1\" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

การแพร่ระบาดเร็วอาจจะมาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ทั้งการรวมตัวทำกิจกรรมมากของผู้คนที่มากขึ้น คนใส่หน้ากากอนามัยน้อยลง เนื่องจากบางคนเห็นว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา ไม่อยากให้กังวล เพราะธรรมชาติของไวรัสมีการกลายพันธ์ุ ไปหลายสายพันธ์ุจำนวนมาก กรมยังติดตามเฝ้าระวังต่อเนื่อง

ด้าน Center for Medical Genomics ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยในวันที่ 18พ.ค.66 ว่า 

จับตาโอไมครอน “FU.1(XBB.1.16.1.1)” หลานของ “XBB.1.16” 


ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประสานความร่วมมือเพื่อเฝ้าติดตาม “FU.1” เนื่องจากมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50% โดยความรุนแรงยังไม่ปรากฏ

 

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  แต่โควิด-19ตระกูลโอมิครอนยังมีการกลายพันธุ์แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่เด่นชัดมี 3 กลุ่มคือ

  •  โอมิครอน XBB.1.5 นามแฝงคือ คราเคน (Kraken) มาจากชื่อปลาหมึกยักษ์ในเทพนิยาย
  •  โอมิครอน XBB.1.16 นามแฝงคือ อาร์คทูรัส (Arcturus) มาจากชื่อดาวฤกษ์
  •  โอมิครอน XBB.1.9.1 นามแฝงคือ ไฮเปอเรี่ยน (Hyperion) มาจากชื่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง

   โดยกลุ่มโอมิครอน XBB.1.5 มีการลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าจะถูกแทนที่โดย กลุ่ม XBB.1.16* และ XBB.1.9.1 ที่พบระบาดมากที่สุดในอินเดีย และมีการกระจายไปทั่วโลก  ส่วนในอาเซียนพบในสิงคโปร์และไทย



  ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี  ติดตามการกลายพันธุ์ในระดับจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกจากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโควิด-19 โดยการเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อในประเทศและข้อมูลรหัสพันธุกรรมจากฐานข้อมูลโควิดโลก “จีเสส (GISAID)” ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา (15 เม.ย. -15พ.ค. 2566)

มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง\"โควิด FU.1\" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

   พบโอมิครอนสายพันธุ์หลักในประเทศไทยเป็นกลุ่ม XBB* ประมาณ 93.5% ประกอบด้วยสายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งคือ XBB.1.16* ประมาณ 19% อันดับสองเป็น XBB.1.5* ประมาณ 10% และอันดับสามเป็น XBB.1.9.1* ประมาณ 8.4%


สายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งกลุ่ม XBB.1.16  หรืออาร์คทูรัส (Arcturus) พบการกลายพันธุ์ระบาดไปทั่วโลกถึง 3 รุ่นคือ


รุ่นแรก

  • โอมิครอน XBB.1.16 (กลายพันธุ์ ณ. ตำแหน่ง S:E180V, S:478R) ทั่วโลกพบ 9,003  ราย  ประเทศไทย 139 ราย

รุ่นลูก

  • โอมิครอน XBB.1.16.1 (S:T547I) ทั่วโลกพบ  2,714  ราย  ประเทศไทย 26 ราย
  • โอมิครอน XBB.1.16.2  (ORF3a:V13L, ORF1a:P926H)  ทั่วโลกพบ 666 ราย ประเทศไทยพบ   25 ราย
  • โอมิครอน XBB.1.16.3 (A2893C) ทั่วโลกพบ 175  ราย ประเทศไทยพบ   5  ราย
  • โอมิครอน XBB.1.16.4 (S:T678I) ทั่วโลกพบ 177  ราย ประเทศไทยยังไม่พบ
  • โอมิครอน XBB.1.16.5 (T9991C,C16332T) ทั่วโลกพบ 135  ราย ประเทศไทยยังไม่พบ
  • โอมิครอน XBB.1.16.6 (S:F456L) ทั่วโลกพบ 23 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

รุ่นหลาน

  • โอมิครอน XBB.1.16.1.1 (T3802C) นามแฝง FU.1  ทั่วโลกพบ 122 ราย  ประเทศไทยพบ 1 ราย  
  • โอมิครอน XBB.1.16.1.2 (C8692T) นามแฝง FU.2 ทั่วโลกพบ  149 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง\"โควิด FU.1\" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

   สายพันธุ์ย่อยอันดับสามคือกลุ่ม XBB.1.9.1* หรือไฮเปอเรี่ยน (Hyperion) พบการกลายพันธุ์ระบาดไปทั่วโลกถึง 3 รุ่นคือ รุ่นแรก รุ่นลูก และรุ่นหลานเช่นกัน ใช้ชื่อเรียกเป็นอักษรย่อ “FL” ตามด้วยตัวเลขทศนิยม ยังไม่มีการตั้งชื่อนามแฝง 

สายพันธุ์ย่อยในกลุ่มโอมิครอน XBB.1.16* โดยเฉพาะ “FU.1 (XBB.1.16.1.1)”  ถือได้ว่าเป็น “รุ่นหลาน” ของ XBB.1.16 พบการระบาดมากในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้ประสานความร่วมมือให้ช่วยกันเฝ้าติดตามเนื่องจากมีค่าความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50%
 


ในขณะที่กลุ่มโอมิครอน XBB.1.16* “รุ่นลูก” คือ  “XBB.1.16.1” พบการแพร่ระบาดในสวีเดน โดยมีโอมิครอนกลุ่ม “XBB.1.9.1” และรุ่นลูกและรุ่นหลาน “FL*” กลายพันธุ์แพร่ระบาดตามมาติดๆ คาดว่าอาจเข้ามาแทนที่กลุ่ม XBB.1.16* ในอนาคต
ภาพ 4,5, และ 7

มาแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ เฝ้าระวัง\"โควิด FU.1\" แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 ถึง 50%
ตลอด 3 ปีครึ่งของการระบาดของโควิด-19 เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของไวรัสนี้มาอย่างต่อเนื่อง ไวรัสเวอร์ชันใหม่ เช่น โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB ที่ปรากฏขึ้นในราวมิถุนายน ปี 2565 เกิดมาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ (recombination หรือ “X”) ระหว่างโอมิครอนสองสายพันธุ์ย่อยคือ “BJ.1” และ BM.1.1.1 (ลูกหลานของ BA.2.75)

 

  • โควิดเวอร์ชันใหม่นี้แข็งแกร่งขึ้น แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว สามารถต้านทานภูมิคุ้มกันของร่างกายเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าไวรัส XBB อาจไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อเจ็บป่วยรุนแรงไปกว่าโควิดรุ่นก่อน แต่ก็ยังสามารถแพร่กระจายและกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วอันเป็นเหตุผลสำคัญที่ก่อความกังวลให้กับองค์การอนามัยโลกและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก

 

 

ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ ทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ได้ถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสจากตัวอย่างส่งตรวจและจับตามองว่าไวรัสโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรและแพร่กระจายไปที่ใด ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจในไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ที่อุบัติขึ้นมาอย่างต่อเนื่องได้ดีขึ้น อันจะช่วยให้เรามีเวลาตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกันและรักษาแก่ประชาชนคนไทยหากการระบาดของโควิด-19 หวนกลับมา 


ศูนย์จีโนมฯดำเนินการถอดรหัสพันธุกรรมโควิด-19 ทั้งจีโนมมาตั้งแต่เริ่มการระบาดเมื่อ 3 ปีที่แล้วเพื่อประโยชน์หลายประการ


1. การติดตามสายพันธุ์ของไวรัส: โดยการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนมจากผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยที่หลากหลาย จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตามวิวัฒนาการของไวรัสและระบุสายพันธุ์ใหม่ได้ สายพันธุ์ย่อยที่อุบัติขึ้นมาอาจมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น การแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้น หรือก่อความรุนแรงของการเจ็บป่วย และบางสายพันธุ์อาจหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นโดยการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อตามธรรมชาติในครั้งก่อน


2. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัส: การถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนมสามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัสภายในชุมชน ภูมิภาค และประเทศต่างๆ สามารถช่วยระบุกลุ่มผู้ป่วยและห่วงโซ่การแพร่เชื้อ ซึ่งสามารถใช้ปรับมาตรการด้านสาธารณสุขเข้าควบคุมการระบาดของไวรัสได้แบบเรียลไทม์


3. การป้องกันด้วยวัคซีนและการรักษาด้วยยา: หากไวรัสเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ (การกลายพันธุ์) สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนและการรักษาด้วยแอนติบอดีสำเร็จรูปและยาต้านไวรัส ทำให้นักวิจัยมีข้อมูลที่สามารถใช้อัปเกรดทั้งชุดตรวจ แอนติบอดีสำเร็จรูป วัคซีน และยาต้านไวรัส ได้ในระยะอันสั้นทันต่อเหตุการณ์

 


4. การตอบสนองด้านสาธารณสุข: ข้อมูลจากการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนมสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการหรือยกเลิกมาตรการควบคุม ได้แบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น การถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนม สามารถช่วยระบุได้ว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ทางเจ้าหน้าที่อาจตัดสินใจเพิ่มความเข้มข้นในบางมาตรการ เช่น กินร้อน ช้อนกลาง สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม การใช้ยาแอนติบอดีสำเร็จรูปและยาต้านไวรัส รวมไปถึงการปิดพื้นที่ ตำบล จังหวัด หรือประเทศ  


5. การทำงานร่วมกันทั่วโลก: การแบ่งปันข้อมูลจากการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนมทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกสามารถศึกษาไวรัส ติดตามการแพร่กระจาย การตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันและยาต้านไวรัส รวมทั้งการเกิดเชื้อไวรัสดื้อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือระดับโลกนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุมการแพร่ระบาด


6. การทำนายแนวโน้มในอนาคต: จากการสังเกตวิวัฒนาการของไวรัสเมื่อเวลาผ่านไป นักวิทยาศาสตร์สามารถคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคต เช่น ความเป็นไปได้ที่สายพันธุ์ใหม่จะเกิดขึ้น  สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันหรือเข้ายึดเกาะกับผิวเซลล์ได้ดีกว่าหรือด้อยกว่าสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบัน

 


โดยสรุปการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสทั้งจีโนมเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้เราติดตามและทำความเข้าใจไวรัสโควิด-19 ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับเปลี่ยนการรับมือต่อการระบาดใหญ่ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก  ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ข่าวเด่น

"ทนายอนันต์ชัย"พาสมาชิกสมาคมฮินดูฯ บุก ปค.ร้อง ปธ.-คกก.เก่าขวางเลือกตั้ง

"ทนายอนันต์ชัย"พาสมาชิกสมาคมฮินดูฯ บุก ปค.ร้อง ปธ.-คกก.เก่าขวางเลือกตั้ง

ทำไมคนไทยถึงชอบกิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากขนาดนี้

ทำไมคนไทยถึงชอบกิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากขนาดนี้

"ทนายเดชา" ฝากข้อความถึงคนที่ไม่ชอบตน งานนี้ชาวเน็ตแห่ถูกใจ

"ทนายเดชา" ฝากข้อความถึงคนที่ไม่ชอบตน งานนี้ชาวเน็ตแห่ถูกใจ

โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

"ปู มัณฑนา" เผยแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ล็อตแรก 100 เคส

"ปู มัณฑนา" เผยแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ล็อตแรก 100 เคส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง