สังคม

"สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต.

09 มิ.ย. 2566 | 09:51 น.

พันโทสมจิตร จงจอหอ ออกมาชี้แจงเรื่องการเลื่อนขั้นนักกีฬาทหาร มีหลักเกณฑ์ควบคุมชัดเจน รวมถึงมีการทำผลงานให้กับหน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่หรือไม่

กลายเป็นประเด็นร้อนแรง หลังมีดราม่าเลื่อนขั้นให้กับร.ต.อ.หญิงรายหนึ่ง ทำให้เป็นที่สนใจของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ล่าสุดทางด้าน มนัส บุญจำนงค์ นักมวยสากลแชมป์เหรียญทอง โอลิมปิก 2004 ที่ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเหรียญเงิน โอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีนโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อดราม่าเลื่อนขั้นให้กับร.ต.อ.หญิง แบบก้าวกระโดดในระยะเวลาเพียง 4 ปี ตัวเองรับราชการ 23 ปีเป็นแค่ "จ.ส.ต." ชี้วงการนี้ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ก็อย่าไปหวัง

"สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต."สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต.

 

ทางด้าน มนัส บุญจำนงค์ ได้โพสต์ตัดพ้อร่ายยาว ระบุข้อความว่า "เห็นคนแชร์เยอะมากตอนนี้ เรื่องติดยศ พวกผมทำชื่อเสียงมากันเยอะ หลายคนทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติมาไม่รู้เท่าไร ยังไม่ได้เลื่อนยศและตำแหน่งเลย (หมดประโยชน์ก็หมดค่า) "

ขณะที่  วรพจน์ เพชรขุ้ม อดีตนักมวยสากลเหรียญเงิน โอลิมปิก 2004  เข้ามาคอมเมนต์ว่า "23 ปีเต็มๆ จ.ส.ต. สุดๆ ครับระบบราชการ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ก็อย่าไปหวังอีกปีกว่าๆ คงไม่ต้องไปวุ่นวายกะระบบที่ยืนกุมไข่และดีครับผม เหมาะสมครับท่าน"

นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ ว่า "มีออกแถลงจากโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วครับว่าเขาจบปริญญาโทมาสามารถเลื่อนจากร้อยตำรวจตรีเป็นร้อยตำรวจเอกฝ่ายในเวลา 2 ปีได้ครับ"  ซึ่ง มนัสคอมเมนต์ตอบกลับว่า "วรพจน์จบปริญาโท ยังเป็นสิบเอกเลยครับ"

"สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต."สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย.66) พันโทสมจิตร จงจอหอ ออกมาชี้แจงเรื่องการเลื่อนขั้นนักกีฬาทหาร มีหลักเกณฑ์ควบคุมชัดเจน และขึ้นอยู่กับว่าตัวนักกีฬาคนนั้น ๆ ด้วยว่าจะสามารถทำผลงานให้ดีขึ้นได้หรือไม่ รวมถึงมีการทำผลงานให้กับหน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่หรือไม่ 

 

"กรณีที่นักกีฬาทีมชาติ ที่เข้ามารับราชการทหารว่า เป็นเรื่องดีที่นักกีฬาที่ติดทีมชาติ ได้รับโอกาสให้บรรจุเข้ารับราชการเพื่อไปเล่นให้กับสโมสรต่าง ๆ ของกองทัพ หรือหน่วยงานราชการต่าง ๆ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวนักกีฬาคนนั้น ๆ ด้วยว่าจะสามารถทำผลงานให้ดีขึ้นได้หรือไม่ รวมถึงมีการทำผลงานให้กับหน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่หรือไม่ หรือมีการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทหารเพิ่มเติมหรือไม่

ซึ่งทั้งหมดจะมีผล เกี่ยวกับหน้าที่การงานโดยตรง การเลื่อนขั้นของหน่วยงานทหารและหน่วยงานตำรวจจะมีความแตกต่างกัน เพราะเป็นลักษณะโครงสร้างองค์กรที่แตกต่างกัน ในส่วนของตนเองที่สังกัดอยู่ในกองทัพ ก็มีระเบียบข้อกำหนดเกี่ยวกับเรื่องของการคลองยศอย่างชัดเจน

ในหน่วยงานทหารจะมีความชัดเจนในเรื่องของระยะเวลาในการครองยศต่าง ๆ ตามลำดับขั้น ซึ่งทุกลำดับขั้นจะมีการเรียนและสอบเพื่อเลื่อนขั้นไปตามขั้นตอน โดยตนเองเริ่มต้นในชีวิตข้าราชการทหารจากการเป็นอาสาสมัครทหารพราน อยู่ 2 ปี ก่อนขยับเป็น สิบตรี ก่อนจะครองยศอีกหลายปี จึงขยับเป็นสิบโท และสิบเองตามลำดับขั้น และหลังจากยศร้อยเอกก็ครองยศมาอีกแปดปีกว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็น พันตรี นับเวลารวมที่ตนเองรับราชการมา 27 ปี นับตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน ที่ประดับยศ "พันโท" ซึ่งเลื่อนยศขึ้นมาเมื่อปี 2565

 

"สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต."สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต.

 

ส่วนเรื่องที่มนัสและวรพจน์ ออกมาตัดพ้อนั้นพันโทสมจิตร จงจอหอ ระบุว่าคงต้องกลับไปดูว่าทั้งสองได้มีการเข้าอบรมหรือเข้าไปเรียนในหลักสูตรของทางทหารตามขั้นตอนหรือไม่ เช่นหลักสูตรนายร้อย หลักสูตรนายพัน หรือหลักสูตรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในสายทหาร เพิ่มเติมด้วยไหม หรืออาจจะอยู่กับวงการมวยมาตลอด โดยที่ไม่ได้มีการไปเรียนเพิ่มเติมทางด้านการทหาร หรืออาจจะไม่ได้มีการติดต่อหรือกลับไปอยู่กับทางต้นสังกัดเลย อยู่แบบลักษณะการช่วยราชการในตำแหน่งที่ไม่ได้ทำงาน หรือไม่

ตนเองไม่ทราบรายละเอียดในข้อนี้ แต่ในส่วนของตนเองมีการติดต่อกับทางหน่วยอยู่ตลอดและมีการไปช่วยงานของทางหน่วย ทำให้ผู้บังคับบัญชาเห็นหน้ากันอยู่ประจำ

 

"สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต."สมจิตร" เคลื่อนไหวแล้ว ปมดราม่าเลื่อนขั้น หลัง มนัส พ้อ 23 ปี เป็นแค่ จ.ส.ต.

 

ในส่วนของนักกีฬาทีมชาติที่มารับราชการจะมีอยู่ 2 ประเภทคือประเภทที่บรรจุเป็นข้าราชการ และไปอยู่ในวงการกีฬาเต็มตัว ก็จะอยู่ในลักษณะของการช่วยราชการในตำแหน่งที่ไม่ได้ทำงาน กับอีกส่วนคือส่วนที่เข้ามารับราชการและช่วยงานในหน่วยที่ตนเองสังกัดอยู่ ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับการเลื่อนชั้นยศที่แตกต่างกันจากทั้ง 2 ลักษณะที่ว่ามาอย่างชัดเจน