แอนนา เข้ารับทราบข้อหากล่องสุ่มทิพย์ ชี้ไม่เจตนาฉ้อโกง ตอนนี้ในบช.มี 25 บ.
แอนนา เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ปมเปิดขายกล่องสุ่มทิพย์ ไม่มีเจตนาฉ้อโกง ยอมรับเคยคิดสั้นไม่เคยวางแผนธุรกิจ ตอนนี้ในบัญชีเหลือเงิน 25 บาทเท่านั้น
วันที่ 16 มิ.ย.66 "แอนนา" วรินทร วัตรสังข์ อินฟูลเอนเซอร์ชื่อดัง พร้อม"พุดเดิ้ล ยุพดี" เพื่อนสนิท และทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.ท.อคร กล่อมกูล สว.กก.2 บก.สอท.1 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีจากการทำธุรกิจกล่องสุ่มทิพย์ ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เจ้าตัวเปิดใจครั้งแรก ยันไม่มีเจตนาฉ้อโกง
โดยทันทีที่แอนนาเดินทางมาถึงได้ยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชนก่อนที่จะเข้าไปรอพบพนักงานสอบสวนที่ห้องสอบสวน ก่อนที่ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และทีมสอบสวนจะร่วมกันสอบปากคำ จากการสอบปากคำนานกว่า 1 ชม. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนกก.2 บก.สอท.1 ได้ออกหมายเรียกแอนนา วรินทร มารับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงประชาชน
และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14(1) โดยได้ทำการออกหมายเรียกไปเมื่อวานนี้หลังจากมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายเข้าแจ้งความกับทางบก.สอท.1 ตั้งแต่เดือนกพ.ที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำทราบว่าเป็นคดีความเกี่ยวกับอาหารเสริมความงามและธุรกิจที่แอนนาทำอยู่ เฉพาะ บก.สอท.1 มีทั้งหมด 9 คดี มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 8 ล้านบาท แต่ยังมีคดีความอีกหลายท้องที่ทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหาย 15 ล้านบาท
ส่วนประเด็นเรื่องทองที่ปรากฎนั้น เจ้าตัวชี้แจงว่าทองดังกล่าวเป็นของสัมมนาคุณที่แจกให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้า โดยแอนนามีหลักฐานการซื้อทองวันละหลายล้านบาท และเคยแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว เมื่อปี 2565 เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวอีกว่า ปกติการแจกของในลักษณะนี้จะไม่สามารถทำได้หากไม่ได้ขออนุญาตกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรณีแอนนาพบว่าได้ขออนุญาตไว้ในปี 2566 แต่ต้องตรวจสอบย้อนหลังไปในปี 2565 ด้วยว่าได้ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ พร้อมตรวจสอบคดีความในท้องที่อื่นเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้แอนนาเองก็มีความเครียด แต่ได้เดินทางมาเข้าพบกับตำรวจเอง พร้อมฝากประชาชนก่อนว่าในการจะแจกสิ่งของควรจะตรวจสอบข้อกฎหมายให้รอบคอบ มิฉะนั้นก็อาจเข้าข่ายความผิดเรื่องแชร์ลูกโซ่ได้
ขณะที่ แอนนา วรินทร ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเรื่องเกิดจากการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด เพราะไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ดี อีกทั้งตนชอบแจก ใจใหญ่ในการทำธุรกิจ โดยกรณีนี้เริ่มจากการส่งของล่าช้า ตนก็ไม่มีเจตนาไม่ส่งของ ส่วนเรื่องกล่องสุ่มทิพย์ ยืนยันว่าตนทำจริง แต่เป็นสกินแคร์และอาหารเสริมที่ระบุรายละเอียดชัดเจน อีกทั้งขอชี้แจงถึงประเด็นเรื่องกล่องสุ่มทองคำว่า ตนไม่ได้ทำเพราะตนจะให้ทองเป็นของแจกคืนกำไรสำหรับลูกค้าประจำเท่านั้น โดยมีเอกสารการซื้อครบ และลูกค้าได้รับมาตลอด รวมถึงยังระบุชัดเจนว่าตนจะขายทองให้กับลูกค้าประจำที่ซื้อสินค้าตามยอดที่กำหนดเท่านั้น
ส่วนคดีความที่เกิดขึ้น ตนเคยแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว หลังวันที่ 24 ก.ย.2565 แมสเซ็นเจอร์ที่คอยรับส่งของกับตนเป็นประจำ เข้ามารับทองมูลค่า 4 ล้านบาทในช่วงดึกเพื่อนำไปส่ง แต่เขาอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้มระหว่างทางและของหายทั้งหมด โดยที่แมสเซ็นเจอร์รายนี้ไม่เคยทราบว่าของที่ไปส่งคืออะไร และตนยังมีพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดบางช่วงขณะแพ็กทองเพื่อส่งและมอบให้ตำรวจไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับแมสเซ็นเจอร์เพราะตนไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งตำรวจยังคงสืบสวนคดีนี้อยู่ ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะให้ความไว้ใจกับแมสเซ็นเจอร์รายนี้มาเป็นปี แต่สุดท้ายแม่ตนบอกว่าเป็นเวรกรรม และเวรกรรมมาตกที่ตัวเอง เพราะตอนนี้ยังหาทองไม่พบจริงๆ ยอมรับว่าพลาดเองที่ไม่แจ้งลูกค้าเพราะเกรงจะส่งผลต่อการทำธุรกิจ ทั้งนี้ตนจะเร่งขายสินค้าเพื่อนำเงินไปซื้อทองมาคืนลูกค้าที่ดำเนินคดีไว้
“ยอมรับตัวเองเคยคิดสั้น หนูพยายามเข้มแข็งในทุกวัน คิดว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วเราต้องอยู่ ไม่งั้นลูกค้าจะได้ของยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่สบายใจ หนูไม่ได้กลัวคุก เพราะคุกก็คือคุก แต่คืนของให้ลูกค้าคือจุดประสงค์หลัก แต่บัญชีตอนนี้หนูมีเงินแค่ 25 บาทเท่านั้นเพราะไม่เคยวางแผนว่าธุรกิจจะล้ม”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ทางแอนนา ได้เปิดเสื้อให้ผู้สื่อข่าวหญิงดูร่องรอยบาดแผลที่อ้างว่าได้ใช้ของมีคมทำร้ายร่างกายตัวเอง ซึ่งผู้สื่อข่าวเห็นเพียงรอยแดงเท่านั้น