สาวใหญ่ ไปซื้อของซูเปอร์มาร์เก็ตดัง เข็นรถใส่ผักไปเข้าห้องน้ำ ออกมาโดนจับ
สาวใหญ่ ขอความเป็นธรรม หลังซื้อของซูเปอร์มาร์เก็ตดัง ปวดท้องเข็นรถใส่ผักไปจอดหน้าห้องน้ำ ออกมาถูกจับส่งตำรวจ ต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์
จากกรณี เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา นางซ๊ะ อายุ 71 ปี เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอคำปรึกษาทางคดีหลังตัวเองไปซื้อผักในซูเปอร์มาเก็ตดัง แห่งหนึ่งที่ตั้งในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางนา แต่ด้วยความเข้าใจผิดว่าตัวซูเปอร์มาเก็ต อยู่ในห้างสรรพสินค้าจึงเข็นรถใส่ของออกมาเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.มาจับตัวส่งดำเนินคดีลักทรัพย์ ทั้งๆที่ไม่มีเจตนา รีบมาเข้าห้องน้ำ เพราะปวดท้องเท่านั้น ต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์
โดยนางซ๊ะ เล่าว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นช่วงบ่ายของวันที่ 15 มิ.ย.66 ตนเองเดินทางเข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าดังย่านบางนา ก็ เดินจับจ่ายซื้อของตามปกติซึ่งตอนนั้นได้ของมา 8 อย่างประกอบไปด้วย มะเขือเทศ 2 แพ็ค เห็ด 1 แพ็ค พริกขี้หนู 1 แพ็ค กระหล่ำปลี 1 หัว ขิงที่ชั่งแล้ว 3 แง่ง ผักเซเลอรี่ 1 ถุง อโวคาโด 5 ลูก
ระหว่างนั้นปวดท้องจะต้องเข้าห้องน้ำทันที จึงเดินเข็นรถไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้กับซุปเปอร์มาเก็ต โดยนำเข็นรถมาจอดไว้ที่หน้าห้องน้ำซักพักมีพนักงานเดินมาถามว่ารถเข็นของใคร ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าห้องน้ำยื่นรอคิวอยู่จึงตอบกลับไปว่าเป็นรถเข็นของตัวเอง ก็ไม่ได้คิดอะไรกะว่าเข้าห้องน้ำเสร็จก็จะกลับเข้าไปเดินซื้อของและจ่ายเงิน
พอทำธุระเสร็จกำลังเข็นรถเพื่อที่จะเข้าไปซื้อของต่อก็มีพนักงานมาบอกให้เดินตามเขาไป ยังคิดว่าจะพาไปจ่ายค่าของแต่กลับพาไปกักตัวไว้ที่ห้องด้านหลังเพื่อรอตำรวจ แต่ไม่ได้บอกสาเหตุว่าทำไมตนเองถึงต้องมาถูกกักตัวแบบนี้ กระทั่งตำรวจมาก็พาตัวเองไปสน.บางนา ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะทำบันทึก ถ่ายรูป แล้วเอาตัวขึ้นไปขังที่ขั้น 2 โดยบอกว่าตอนนี้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ตัวเองต้องให้คนนำเงินมาประกันตัว 45,000 บาท
ด้านนายเอกภพ ระบุว่า สำหรับเคสนี้ จากการที่ได้คุยกับคุณป้าแล้ว แทบจะฟังไม่ได้เลยว่าเป็นเรื่องของการลักทรัพย์ ส่วนตัวมองว่าคุณป้าแกอยู่ต่างประเทศมานาน ซึ่งการปฎิบัติของแต่ละทีอาจจะไม่เหมือนกัน ดูเจตนาน่าจะเข้าลักทรัพย์ เพียงแค่ตั้งใจจะมาเข้าห้องน้ำซึ่งห้องน้ำก็อยู่ไม่ไกล เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จก็กำลังจะเข็นรถมาซื้อของต่อ
ซึ่ง ในส่วนนี้คนที่เป็น รปภ. หรือผู้ปฏิบัติควรที่จะมีดุลย์พินิจให้มากกว่านี้ คุณป้าท่านนี้ถือเป็นลูกค้าชั้นดีของทางซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยซ้ำ ซึ่งที่ผ่านมาคุณป้าก็มีการเข้าไปจับจ่ายซื้อของบ่อยครั้ง และยังเป็นสมาชิกของซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ ด้วยปีๆหนึ่งมูลค่าหลายแสน และในวันนั้นสิ่งของที่อยู่ในรถก็มีแต่ผักซึ่งมูลค่าไม่กี่บาท และไม่ได้มีสิ่งของที่มีมูลค่าสูง ซึ่งหลังจากนี้ได้ประสานไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางนา เพื่อนำหลักฐานที่แสดงว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะลักทรัพย์ไปมอบให้พนักงานสอบสวนด้วย