ผู้ร้อง แฉข้อมูลอีกมุม โต้แถลงอธิบดีกรมศุลกากร ลั่น อย่าหลงประเด็น
หนังคนละม้วน ผู้ร้องเรื่องศุลกากรจับทุเรียนสด 8 ตัน ออกมาโพสต์โต้แถลงอธิบดีกรมศุลกากร ปมกรมศุลกากรจับทุเรียนสดลักลอบนำเข้า ลั่น อย่าหลงประเด็น
จากกรณีกรมศุลกากรจับทุเรียนลักลอบนำเข้า 8,420 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1,178,800 บาท ซึ่งกรมศุลกากร แถลงยืนยันแล้วว่า ทุเรียนกว่า 8 ตัน ลักลอบข้ามแดนจากเพื่อนบ้านจริง เจ้าของทุเรียนสารภาพว่าซื้อทุเรียนมาจากชาวกัมพูชา พร้อมมีการเตรียมดำเนินคดีคนปล่อยข่าวเท็จว่าทุเรียน 8 ตัน ที่ถูกจับ ไม่ใช่ทุเรียนลักลอบนำเข้า แต่เป็นทุเรียนที่มาจาก จ.ศรีษะเกษ และเรื่องที่กรมศุลฯเอาทุเรียนที่จับได้ ไปขายให้หน่วยงานต่างๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมากรมศุลกากร ชี้แจง กรณีจับทุเรียนลักลอบนำเข้า จำนวน 8,420 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดย นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนำทุเรียนลักลอบนำเข้าจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจค้นจับกุม
โดยสายลับจะเป็นผู้นำชี้ให้ทำการตรวจค้นด้วยตนเอง จนกระทั่งเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ารถบรรทุกที่ขนทุเรียนลักลอบได้ออกจากพื้นที่แนวชายแดนแล้ว มุ่งหน้าไปทางถนนหมายเลข 317 เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่บริเวณที่สายลับแจ้ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.45 น. ได้พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 68-2537 กทม. มีผ้าใบคลุมทับ ตามที่ได้รับแจ้งที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลวังสมบูรณ์ ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น และได้พบคนขับรถ
โดย อธิบดีกรมศุลกากร ชี้แจงอีกว่า จากกระแสข่าวทุเรียนที่จับได้มาจากจังหวัดศรีสะเกษ ไม่ใช่ทุเรียนที่ลักลอบนำเข้า ทางกรมศุลกากร มีหลักฐานทั้งหมด รวมถึง gps รถยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการบันทึกภาพและเสียง รวมถึงประสานงานกับตำรวจและอัยการก่อนและหลังดำเนินการ ซึ่งก็มีเอกสารทุกอย่างครบถ้วนในการจับกุมผู้รับจ้างขนส่ง จนยอมรับว่ากระทำผิดกฎหมายศุลกากร จึงมีความผิด 2 มาตราได้แก่ มาตรา 242 และ 246 ทั้งผู้รับจ้างขนส่ง และผู้กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของ
ประเด็นเรื่องทุเรียนรับซื้อมาจากจังหวัดศรีสะเกษ กรมศุลกากรได้ตรวจสอบเส้นทางของรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว พบว่าในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายน 2566 รถยนต์คันดังกล่าวมิได้มีการเดินทางเข้าไปในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษแต่ได้มีการใช้รถอยู่ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและสระแก้วเท่านั้น
ทั้งนี้เจ้าของสินค้าได้มาพบเจ้าหน้าที่ โดยแสดงตนเป็นเจ้าของทุเรียนที่ตรวจพบ และได้ให้การรับสารภาพว่าตนได้รับซื้อทุเรียนมาจากชาวกัมพูชาโดยทราบว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยเจ้าของสินค้าให้การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเจ้าของสินค้าส่งงานคดี ด่านศุลกากรอรัญประเทศเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด นายอมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสระแก้ว ผู้ร้องเรื่องศุลกากรจับทุเรียนสด 8ตัน ลักลอบนำเข้า โดยยืนยันว่าล้งในจันทบุรีสั่งซื้อทุเรียนจากเจ้าของสวนในศรีสะเกษ ได้โพสต์เฟซบุ๊คอมรินทร์ ยี่เฮง โต้คำแถลงของกรมศุลกากร ในวันที่ 26 มิ.ย.66
“ที่อธิบดีแถลงเรื่อง GPS รถ 6 ล้อนั้น เพื่อนๆ อย่าหลงประเด็นครับ รถ 6 ล้อคันนั้นไม่มี GPS สิ่งที่ต้องพูดที่ต้องโชว์คือคลิปที่มึงบอกคนขับรถว่ามึงถ่ายมา ตั้งแต่แนวชายแดน พรบอุ้มหาย”
ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวก็ได้โพสต์ซัดเจ้าหน้าที่ศุลกากรว่า ทำแบบนี้จนเคยชิน คิดว่าไม่มีผู้ประกอบการเขาเอาจริง เพราะทุกครั้งที่จับ คนขับรถก็จะเซ็นมอบให้จนได้ใจเที่ยวนี้มีเจ้าของนะครับ ควรจะให้เจ้าของเขาได้ซื้อคืนหรือประมูลคืน ไม่ใช่รถยังไม่ทันจอดดีเลยก็ใส่รถตำรวจไป 20 ลัง ทำได้ยังไง ขอมูลค่าล้านกว่า อาไปเผาทิ้งเจ้าของเขายังไม่เสียใจเท่านี้เลย ไหนไอ้แว่นโย่งๆใส่เสื้อสีส้ม ไหนบอกผมว่าจะไปทำลาย แล้วเอาไปขายทำไมครับ ไหนบอกว่าจะแจ้งเจ้าของผมรอจนเย็นรอจนค่ำรอจนเห็นรถสาธารณสุขจังหวัดมาเอาทุเรียนไปเที่ยวสุดท้าย
หน่วยงานไหนที่เอารถมาเอาทุเรียนจากศุลกากรกล้องวงจรปิด เส้นโรงพักหน้าคลองลึกมีไว้หมดนะครับอย่าบอกว่ากล้องวงจรปิดเสียอีก กล้องวงจรปิดศุลกากรก็มี ช่วยเปิดดูหน่อยได้ไหมว่ามีใครมาเอาบ้างเที่ยวนี้คงกินทุเรียนกันไม่อร่อยล่ะครับ แหมเดินขึ้นไปสำนักงานนี่คิกคักๆดีใจจับทุเรียนได้ รู้ไหม น้ำพักน้ำแรงกว่าจะหาว่าได้ทุกบาททุกสตางค์มาชุบมือเปิบกันอย่างนี้เหรอ
แบบนี้โจรในเครื่องแบบ หัวหน้าศุลกากร นะ คุณกล้าทำแบบนี้ ทำกับประชาชน คุณทำพฤติกรรมชั่วร้ายเลวทรามแต่คุณอีกด้านหนึ่งคุณก็ให้คนโทรมาขอจบ
จบได้ผมก็ต้องได้ทุเรียนคืนนะครับ ที่สำคัญ คุณประเมิน ราคา 1,177,000 กว่าบาทเนี่ยนะ อยากจะดูบิลไหม ว่าราคาที่ผมซื้อมาเท่าไหร่แต่ไม่ให้ดูหรอกคุณขายไปเท่าไหร่คุณประเมินเท่าไหร่คุณคืนของผมมาเท่านั้น คุณขายผมไป 1,177,000 บาท ได้เงินเป็นของกลางคุณก็ต้องเอามาคืนให้เจ้าของเขา จำเอาไว้อย่าไปทำกับผู้ประกอบการอย่าไปทำกับประชาชนแบบนี้ ทุกคนมีมือมีตีนเท่ากันจำเอาไว้
ที่มา อมรินทร์ ยี่เฮง