กระทรวงแรงงาน เยียวยาเหยื่อสะพานถล่มลาดกระบัง ที่เสียชีวิตจำนวน 2 ราย
จากเหตุสะพานถล่ม"สะพานถล่มลาดกระบัง" ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย แบ่งเป็น คนงาน 1 ราย และ วิศวกร 1 ราย วึ่งล่าสุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทายาทเหยื่อผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนเงินดังกล่าว
เตรียมเยียวยาเหยื่อสะพานถล่มลาดกระบัง ที่เสียชีวิตจำนวน 2 ราย
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ค.2566) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทายาทเหยื่อผู้เสียชีวิต และกำชับให้ กระทรวงแรงงาน เร่งให้ความช่วยเหลือทายาทของคนงานที่เสียชีวิตเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์โดยด่วน
จากเหตุคานสะพานถล่ม ทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างได้พังถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิต 2 ราย โดยนายสุชาติ ระบุว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ และกำชับให้เร่งให้ความช่วยเหลือทายาทของคนงานที่เสียชีวิตเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์โดยด่วน
ตนได้สั่งการให้ สำนักงานประกันสังคม ตรวจสอบข้อมูลความเป็นผู้ประกันตนของลูกจ้างที่เสียชีวิต เพื่อเร่งประสานการช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอนให้ได้รับสิทธิประโยชน์โดยเร็ว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 10 พบว่า ลูกจ้างที่เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้ประกันตนจำนวน 2 ราย ล่าสุดญาติได้เคลื่อนย้ายศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาในภูมิลำเนาแล้ว โดยศพของนายอรัญ สังขรักษ์ ญาติได้เคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ และศพของนายฉัตรชัย ประเสริฐ ญาติได้เคลื่อนย้ายไปที่วัดพังกิ่ง อ.กงหรา จ.พัทลุง
ในส่วนของ กระทรวงแรงงาน ตนได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ครอบครัว เนื่องจากเป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน ทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน
โดยทายาทของนายอรัญ สังขรักษ์ คนงานผู้เสียชีวิต มีสิทธิได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 10 ปี เป็นเงิน 770,952 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 820,952 บาท
ส่วนทายาทของนายฉัตรชัย ประเสริฐ วิศวกรโครงการฯ มีสิทธิได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 10 ปี เป็นเงินจำนวน 1,680,000 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 89,190 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,819,190 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดในพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้ลงพื้นที่ประสานทายาทของผู้เสียชีวิต เพื่อนำเงินสิทธิประโยชน์ทดแทนดังกล่าวไปมอบให้แก่ทายาทโดยชอบธรรมตามกฎหมาย
ส่วนลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้ประกันตน ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวที่อยู่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต จำนวน 3 ราย มีสิทธิได้รับเงินทดแทน เป็นค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นและสิทธิประโยชน์ทดแทน
สำนักงานประกันสังคม จะเร่งดำเนินการเยียวยากรณีดังกล่าวเพื่อให้ลูกจ้างและทายาทได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป