ชาฮ์รูค โดนเค้นหนัก ปล่อยโฮฟ้องพี่ ถูกโอลาฟ ขู่เอาชีวิต จับแฟน-น้องสาวไปขาย

จากเหตุสะเทือนขวัญและเป็นข่าวดังในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีการ จับกุม นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันฆ่าและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพนายฮันส์ ปีเตอร์ นักธุรกิจเยอรมัน ที่พัทยา  ล่าสุด นายชาฮ์รูค ร้องไห้และบอกว่าตนไม่ได้เป็นคนฆ่าหั่นศพ แต่โดนโอลาฟ บังคับข่มขู่ทั้งขู่เอาชีวิตตนและขู่จะจับแฟนกับน้องสาวของตนไปขายให้กับแก๊งในประเทศเพื่อนบ้าน

 

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2566 หลังตำรวจนำตัวนาย "ชาฮ์รูค" มาสอบเข้มที่สภ.หนองปรือ นายชาฮ์รูคร้องไห้ฟ้องพี่ชาย ไม่ได้ร่วมลงมือแต่โอลาฟขู่เอาชีวิต จับแฟน-น้องสาวไปขายเขมร

 

โดยตอนเจอนักข่าวนายชาฮ์รูค น้ำเสียงสั่นคลอ และสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ก่อนถูกส่งตัวเข้าห้องขังแต่เป็นคนละห้องกับนายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์

ต่อมาครอบครัวของนายชาฮ์รูค เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และขอตำรวจเจอกับนายชาฮ์รูค ก่อนที่ทั้งหมดจะสวมกอดกันร้องไห้หนัก

นาย"ชาฮ์รูค" ร้องไห้อย่างหนักและได้พูดกับครอบครัวว่า "ผมสาบานๆ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมโดนข่มขู่ ผมเป็นห่วงน้องสาว ผมห่วงเมียผม มันขู่จะลักพาตัวไปที่เขมร"

โดยโอลาฟ เป็นคนขู่หากไม่ทำตาม อีกทั้งนายโอลาฟรู้ว่าเมียของนายชาฮ์รูคอยู่ที่ไหน แม่เชื่อว่าลูกถูกบังคับให้ทำ

ด้านพี่ชายเล่าว่าน้องชายร้องไห้หนักมากและพูดกับตนว่า "ผมกลัว ผมถูกโอลาฟขู่ฆ่า และจะลักพาตัวแฟนสาว น้องสาวแฟน ไปขายกับแก๊งของมันที่เขมร"

 

 

พี่ชายบอกว่าจะขอพูดคุยกับน้องชายอีกครั้ง โดยเชื่อว่าจากที่น้องชายพูดเชื่อว่า น้องถูกหลอกให้มาก่อเหตุในครั้งนี้ กล้าที่จะพูดว่าน้องชายไม่มีนิสัยแบบนี้ ซึ่งเพื่อนในกลุ่ม ที่ จ.ภูเก็ต จะรู้กันดีว่า นายชาฮ์รูดเป็นคนจิตใจดี แต่แค่ชอบในรอยสัก ชอบขี่รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบก์ โดยกลุ่ม ชื่อว่า "81" และยังเชื่อว่าน้องชาย ไม่ใช่คนฆ่า ส่วนน้องสาวและแฟนสาวของน้องชาย ยังคงปลอดภัยดี