จตุรงค์ สุขเอียด พยานในคดี "หุ้นสื่อ ITV" จี้หาคำตอบ ความจริงเป็นยังไงกันแน่
น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย พร้อมด้วย นายจตุรงค์ สุขเอียด อดีตบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี เดินทางเข้าให้ปากคำ พร้อมให้สัมภาษณ์หลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกพยานในคดี "หุ้นสื่อ ITV"
สืบเนื่องจากคดีหุ้นสื่อไอทีวี วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา แยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวรายการ 3 มิติพร้อมด้วย นายจตุรงค์ สุขเอียด อดีตบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้องเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกพยานในคดี "หุ้นสื่อ ITV"
กรณีที่รายการข่าว 3 มิติได้นำคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ในการประชุมสามัญประจำปีของผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 66 มาเผยแพร่ ซึ่งปรากฏว่าเอกสารบันทึกการประชุมขัดแย้งกับคลิปบันทึกการประชุม
โดยนางสาวฐปณีย์กล่าวว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องเพื่อให้การในคดีหุ้นสื่อไอทีวี ซึ่งเป็นคดีที่ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้มีการมายื่นฟ้องเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นการฟ้องประธานผู้ถือหุ้นไอทีวีและนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในข้อหาแจ้งความเท็จและปลอมแปลงเอกสาร
ซึ่งในวันนี้ตนได้นำคลิปบันทึกการประชุมที่ทางข่าวสามมิติได้เคยนำเสนอไป มายื่นเป็นหลักฐานประกอบการยื่นฟ้องด้วย โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปบันทึกการประชุมซึ่งมีความขัดแย้งกับเอกสารบันทึกการประชุม
สำหรับที่มาที่ไปของคลิปดังกล่าว น.ส.ฐปณีย์ กล่าวว่าคลิปนี้มาจากแหล่งข่าวที่เราไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ เนื่องจากเพื่อความปลอดภัยของแหล่งข่าว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้คลิปดังกล่าวมา ก็ได้มีการพิจารณาตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างดีแล้ว โดยในคลิปก็มีเนื้อหาเป็นไปตามที่ได้รายงานข่าวไว้ก่อนหน้า ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง เพียงแต่ตนต้องการทำหน้าที่ของสื่อเท่านั้นและไม่อยากให้ช่องไอทีวีซึางเป็นช่องที่ตนได้เคยทำงานตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทั้งนั้น.ส.ฐปณีย์ ยังบอกว่าขณะนี้ยังไม่มีอะไรมากระทบกับตนเอง ซึ่งตนก็มั่นใจว่าตนนำเสนอด้วยความรอบคอบและถูกต้องหากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบเช่นกัน
ในขณะที่ ทางด้าน นายจตุรงค์ เผยว่า ตัวเองเคยเป็นอดีตประธานสหภาพแรงงานไอทีวี มีส่วนกับการได้เสียของไอทีวีโดยตรง เมื่อทราบข่าวจึงต้องการทราบถึงข้อเท็จจริง โดย น.ส.ฐปณีย์ ได้ค้นหาที่ตั้งของบริษัทไอทีวีเพื่อไปสอบถามกับทีมผู้บริหารถึงสภาพความเป็นสื่อของไอทีวี และได้พบกับผู้บริหารคนหนึ่ง แต่ไม่มีใครที่สามารถให้ข้อมูลได้ แต่มีผู้ที่ให้ข้อมูลการประชุมดังกล่าวว่า ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ และพบการทำบัญชีบางส่วนที่ปรากฎการว่าจ้างทำสื่อ ภายหลังที่ยุติกิจการไปแล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องสืบค้นต่อว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง
ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ทราบดีว่าพนักงานไอทีวีนับพันคนถูกเลิกจ้าง พร้อมได้รับเงินชดเชยจากภาครัฐแล้ว ซึ่งนับแต่ถูกเลิกจ้างก็ไม่เคยดำเนินกิจการสื่อเลย เราก็ร่วมต่อสู้จนถึงวันที่ไอทีวีถูกปิด จึงต้องการจะเป็นตัวแทนที่จะหาคำตอบ หากทุกวันนี้ไอทีวียังเป็นสื่อจริงก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ปัจจุบันศาลปกครองสูงสุดยังคงพิจารณาการตัดสินว่าไอทีวียังคงดำเนินกิจการหรือไม่
"ตั้งแต่วันที่ถูกเลิกจ้างจนถึงวันนี้ ไอทีวีไม่เคยผลิตหรือทำข่าวอีกเลย ไม่เคยมีไมค์ของ ITV ออกมาหน้าสื่อหน้าจอเลย แต่กลับมีเอกสารบัญชีว่ามีรายได้จากการทำสื่อในภายหลัง ก็ต้องตรวจสอบดูว่าใครเป็นคนว่าจ้าง เรื่องนี้เป็นกระบวนการที่ตำรวจต้องไปหาต่อ ซึ่งเราก็อยากรู้เหมือนกัน คนที่เกี่ยวข้องต้องเปิดเผยให้คนอื่นทราบ ไอทีวีไม่ใช่บริษัทจำกัดธรรมดาแต่เป็นบริษัทจำกัด มหาชน ซึ่งมีผู้ได้เสียจำนวนมาก หลายคนก็อยากจะมีส่วนเข้าไปตรวจสอบด้วยแต่ทำไม่ได้ เราจึงขอเป็นตัวแทนว่าความจริงของ ITV เป็นอย่างไรกันแน่"