เจ้าแรก ทีทีบี ประกาศ ขึ้นดอกเบี้ยฝากประจำสูงสุด 0.50% ต่อปี เริ่ม 10 ส.ค. 66
ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% ต่อปี เป็น 2.25% ต่อปี
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี เปิดเผยว่า จากกรณีที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% ต่อปี เป็น 2.25% ต่อปี ธนาคารยังอยู่ระหว่างการ ประเมินสถานการณ์ตลาด สำหรับการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเงินออม ธนาคารได้มีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุดถึง 0.50% ซึ่งสูงกว่าการปรับขึ้นของ กนง. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.2566 ดังนี้
- บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุก ๆ 6 เดือน และลูกค้าได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 3.50% ต่อปี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูงแต่ยังต้องการสภาพคล่อง เพราะถอนได้ก่อนกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ย เริ่มฝากขั้นต่ำได้ที่ 5,000 บาท
- บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน ประเภท 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 1.80% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถรับดอกเบี้ยไปใช้หลังการฝากเงินเพียง 7 วัน โดยเปิดบัญชีครั้งแรกขั้นต่ำ 10,000 บาท
- บัญชีเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน, 6 เดือน และ 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 1.05%, 1.15% และ 1.55% ตามลำดับ
สำหรับลูกค้านิติบุคคล
- บัญชีทีทีบี เงินฝากประจำประเภท 24 เดือน
- สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไป ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.60% ต่อปี
- สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.30% ต่อปี
- บัญชีเงินฝากประจำ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1-6 จาก 1.00% เป็น 1.10% โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1.80% ในช่วงเดือนที่ 19-24
“ธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมการออมเพื่ออนาคตและมีเงินสำรองยามฉุกเฉิน การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จะช่วยให้ลูกค้าเงินออมได้รับประโยชน์สูงสุดจากสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น และเพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น” นายปิติกล่าวสรุป