หนุ่มโดนช่างเรียกค่าแรง 7 หมื่น ซ่อมเป็นปี เสียเกือบแสน ลั่น แฉแน่ถ้าไม่จบ

จากกรณีก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ถามความเห็นชาวเน็ตในกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค กรณีนำรถไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ซ่อมเป็นปีเสียเงินไปเกือบแสน ช่างเรียกค่าแรง 70,000 ทั้งๆที่ตอนแรกบอกว่าแค่ 45,000 ช้ำ เห็นเป็นรุ่นพี่เรียนที่เดียวกัน ไปนั่งเล่นที่อู่ประจำแต่ยังทำกันได้ ลั่น ถ้าไม่จบแฉแน่ โดยคุณเต้ ผู้เสียหาย ได้โพสต์ระบุว่า

 

 

 "ขอความคิดเห็นหน่อยครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมเอารถไปซ่อมที่อู่แห่งนึงตอนแรกก็ปกติดี อู่เบิกเงินไปเพื่อที่จะสั่งอะไหล่ แต่พอถามเรื่องอะไหล่เงียบหาย ไม่ตอบ เวลาผ่านไป 3-4 เดือนรถยังไม่ซ่อม อะไหล่ที่สั่งก็ไม่มี บอกไม่มีเวลาไปเอา อยู่ตจว. ผมกับเเฟนจึงตกลงไปซ่อมที่อื่น เเละนัดคืนเงินค่าอะไหล่ แต่ช่างคิดค่าซ่อม 8,000 บาท คิดเป็นค่าแรง/วัน วันละ 800 ส่วนที่ช่างแจ้งว่าทำอะไรบ้าง คือรื้อรถกับดึงคาน ส่วนตัวผมคิดว่าค่าแรงเกินจริง จึงมาขอความคิดเห็นครับ ขอบคุณครับ"

 

ล่าสุดวันที่ 24 สิงหาคม 2566 "คุณเต้" เปิดใจกับทีมข่าวไทยนิวส์ หลังโพสต์ข้อความลงในกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค ให้ชาวเน็ตช่วยออกความเห็น นำรถยนต์ที่ชนไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่ง โดนช่างเรียกค่าแรง 70,000 จากตอนแรกที่ตกลงกันไว้ 45,000 บาท และมีขอเบิกระหว่างนั้นอ้างว่าค่าอะไหล่อีกจำนวนหนึ่ง

คุณเต้ยอมรับว่าไว้ใจและรู้จักกับเจ้าของอู่ เป็นรุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วยกัน และตนเองก็ไปนั่งเล่นที่อู่บ่อยๆ จึงตัดสินใจนำไปจอดไว้ให้ซ่อม จนมีการเบิกค่าอะไหล่และค่าแรงต่อเนื่อง แต่ตนเองไม่เคยเห็นอะไหล่เลย เวลาล่วงเลยหลายเดือน เริ่มติดต่อเจ้าของอู่ไม่ได้ จึงไปดูที่อู่และเห็นสภาพรถที่ถูกรื้อซ่อมในสภาพต่างกับตอนเอามา โดยทางครอบครัวคุณเต้ ได้เดินทางไปดูสภาพรถที่อู่ซ่อมรถด้วย และต้องการจะเอารถออก ซึ่งช่างพยายามบ่ายเบี่ยง และเรียกค่าซ่อมกว่า 7 หมื่นอ้างว่าเป็นค่าแรงช่าง

 

ส่วนกระแสชาวเน็ตที่มองว่า ดูจากสภาพความเสียหายของรถแล้ว 4 หมื่นไม่มีทางซ่อมได้ คุณเต้บอกว่าได้สอบถามจากอู่อื่นๆ เรื่องราคาขึ้นอยู่ที่ช่างแต่ละที่ประเมินกัน บางที่ก็ 4-5 หมื่น เท่าที่ดูรถเสียหายในส่วนพัดลมแอร์-Airbag

ล่าสุดได้มีการนัดคืนเงินค่าอะไหล่แล้ว น่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ส่วนตัวได้เข้าแจ้งความปรึกษาทนายเบื้องต้น แต่ไม่ได้มีการลงบันทึกประจำวัน

ขอบคุณ กฤศวัสส์ การะเกษ