คนขับแท็กซี่ เล่านาที "ผกก.เบิ้ม" อยู่ในรถ ก่อนกลับบ้านลั่นไกดับ

เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง กับกรณีที่ “ผกก.เบิ้ม” หรือ “พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์” ผกก.2 บก.ทล. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ “สารวัตรแบงค์” ได้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเอง ภายในบ้านพัก โดยการเสียชีวิตมีเงื่อนงำหลายจุด ทั้งมือถือหายแถมสัญญาณไปโผล่บางนา ยังไม่สรุปปลิดชีพตัวเองหรือฆ่าตัดตอน?

 

 ทั้งนี้แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมา 8-12 ชั่วโมง พิสูจน์หลักฐานเข้าไปพบศพตอนบ่าย 3 นับไป 8-12 ชั่วโมง แปลว่าช่วงที่ผู้กำกับเบิ้ม  ก่อเหตุน่าจะอยู่ประมาณ 6-7 โมง หรืออย่างช้าที่สุด 8 โมงเช้า เเต่ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน เเละเเชทที่ส่งไปลาเพื่อนจะฆ่าตัวตาย คือเวลา 10 โมง เเล้วโทรศัพท์ ผกก.เบิ้ม ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ  ด้าน “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์” กล่าวว่า “ขอเวลาตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน ตอนนี้ผู้บัญชาการภาคหนึ่งได้ไปที่เกิดเหตุแล้ว ขอเวลาตรวจสอบรายละเอียด จะเก็บพยานหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าไม่นานจะกระจ่างในเรื่องนี้”

 

 

 หากย้อนดูจากกล้องวงจรปิดยังพบพฤติกรรมที่แปลกเพราะท่านนั่งเเท็กซี่มา หลังจากไปร่วมงานสังสรรค์กับเพื่อนแต่ไม่กินอะไรเลย จากนั้นนัดให้ลูกน้องนัดมารับที่อิมแพ็ค 9 โมงเช้า เเต่ตี 3 ตี 4 นั่งเเท็กซี่มา เเล้วปีนเข้าประตูบ้านตัวเอง  ล่าสุด คนขับแท็กซี่ คันที่รับ  "ผกก.เบิ้ม" ได้ออกเล่าพฤติกรรมในรถ หลังยืนโบกแท็กซี่จากเมืองทอง ให้มาส่งที่บ้านย่านคูคต ก่อนลั่นไกดับคาบ้านพัก

 โดยคนขับแท็กซี่เล่าว่า เจ้าตัว “รับ ผู้กำกับเบิ้ม จากเมืองทองธานี มาส่งที่บ้านพักย่านคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี   ช่วงประมาณตี 4 ตัวเองได้ขับรถเข้าไปส่งผู้โดยสารในเมืองทองธานี แล้วกำลังจะกลับออกมา ก็พบผู้กำกับเบิ้ม ยืนอยู่ตรงข้ามลานจอดรถ แล้วก็ได้โบกรถ ก่อนบอกว่าให้ไปส่งที่หมู่บ้านย่านคูคต ที่เกิดเหตุ ตัวเองก็ได้รับผู้กำกับเบิ้ม ขึ้นรถมา โดยได้เปิดประตูหลังฝั่งซ้ายขึ้นมานั่งบนรถ ระหว่างทางก็ไม่ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับใคร แล้วก็ไม่เห็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นด้วย ส่วนสีหน้าท่าทาง ตัวเองไม่ได้สังเกตุเพราะในรถค่อนข้างมืด

 ในรถ  ผู้กำกับเบิ้ม กับตนเองไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน แล้วพอมาถึงบ้านก็ได้ส่งลงหน้าบ้าน แล้วก็มีการเรียกเก็บค่าโดยสาร 221 บาท ซึ่ง ผู้กำกับเบิ้ม ได้ให้เงินมา 300 บาท พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องทอน แล้วก็เปิดประตูลงจากรถไป ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้สังเกตุว่าพันตำรวจเอกวชิรา ปีนรั้วเข้าไปที่บ้าน เพราะทันทีที่ส่งพันตำรวจเอกวชิราแล้ว ก็ได้ขับรถเลยมากลับรถออกทางเดิม แล้วออกจากหมู่บ้านไป ก่อนจะเกิดเหตุสลดดังกล่าว”