"บิ๊กโจ๊ก" เผยแล้ว หลังดูภาพวงจรปิดรอบ2 ชัดเจนใครพา "สารวัตรแบงค์" ส่งรพ.
บิ๊กโจ๊ก เผยแล้วหลังดูภาพวงจรปิดที่กู้เซิร์ฟเวอร์ได้รอบ2 ชัดเจนใครพาสารวัตรแบงค์ไปส่งโรงพยาบาล ใครช่วยผู้กระทำผิด
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 คืบหน้าคดีกำนันนก ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเกี่ยวกับเหตุการณ์ยิงสารวัตรแบงค์ที่บ้านกำนันนกที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุจากการตรวจเซิร์ฟเวอร์ 2 ตัวที่กู้ขึ้นมาได้ โดยระบุว่ารู้แล้วหลังเกิดเหตุ ใครช่วยผู้กระทำผิด เช่น ขับรถนำบ้างขับรถตามบ้าง แล้วก็ไปเป็นคนคุ้มกันให้กำนันนกบ้าง พร้อมรู้ตัวคนขับพาสารวัตรแบงค์ไปส่งโรงพยาบาล แทนที่จะอยู่ข้างตำรวจช่วยตำรวจกลับกลายไปช่วยผู้กระทำผิด นายตำรวจระดับสูงก็เป็นหนีแน่คนที่บอกช่วยก็ไม่ได้ช่วยโกหกทั้งนั้น
ส่วนนี้คณะกรรมการทั้งหมดก็จะร่วมกันพิจารณาในการดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัยควบคู่กันไป ส่วนกล้องส่องกล้องที่สับสนตั้งแต่เช้า บิ๊กโจ๊กชี้แจงว่าเพิ่งหาข้อเท็จจริงได้เมื่อสักครู่ กล้องมี 15 ตัว 13 ตัวเปิดได้ 100% เต็ม แต่ 2 ตัวพยายามกู้แต่กู้ไม่ได้ เป็นกล้องที่ส่องมาบนโต๊ะจีนกล้องทั้ง 2 ตัวนี้ปรากฏว่าพิสูจน์หลักฐานเพิ่งถอดบอร์ดออกมาได้
ตัวแรกเป็นกล้องที่ไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมตรงนี้ตัดออกไปส่วนอีกตัว เวลาเดินมาที่ 10:16 น. ของวันเกิดเหตุ สงสัยว่า 10:16 นใ ทำไมไม่มีภาพหลังจากนี้ โดยจากการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานก็ได้พยายามเอาบอร์ดมาถอดได้จึงได้เห็นว่าสรุปแล้วครั้งแรกที่เราตั้งสมมติฐานว่ามีการดึงปลั๊กหรือถอดปลั๊กตัดสายอันนี้ไม่ใช่
กล้องตัวนี้ก่อนที่ตนเองจะมาถึงปรากฏว่า กล้องตัวนี้กำนันเป็นคนกดสวิตซ์ปิดตอน 10:16 น. และมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมกำนันถึงปิดสวิตช์ คาดว่ากำนันมีคนมาเตือน ว่าการจัดงานกล้องต้องไม่ให้เห็นว่ามีใครนั่งบ้างกำนันก็เลยกดสวิตซ์ปิด ตั้งแต่เวลาดังกล่าว ทำให้กล้องไม่มีการจับภาพตั้งแต่ 10:16 น. แต่ในเหตุการณ์ในการยิง การเข้ามาในงานคงไม่มีใครนึกว่าจะเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ เมื่อมีการโต้เถียงก็มีการเคลียร์คนออกไปกำนันก็เริ่มมีการไปคุยกับนายหน่อง จากนั้นนำมาสู่การยิง เบื้องต้นมีพยานหลักฐานว่ากำนันนกเป็นผู้สั่งยิง
ทั้งนี้จากการดูกล้องทำให้ทราบว่าผู้ที่ขับรถเก๋งนำตัวสารวัตรแบงค์ออกไปจากบ้านกำนันนกและส่งโรงพยาบาลคือ "พลขับ" ของสารวัตรเอง