เปิดใจ "พี่แจ๋ม" นางฟ้าคนไทย หรือ หญิงเหล็ก เล่าถึงแรงงานไทยในอิสราเอล
เปิดใจชาวไทยที่อิสราเอล นางวิภาวดี วรรณชัย หรือ พี่แจ๋ม วัย 40 ปี เจ้าของฉายา นางฟ้าคนไทย หรือ หญิงเหล็ก ผู้ที่คอยช่อวยเหลือแรงงานไทยที่ประเทศอิสราเอล
นางวิภาวดี วรรณชัย หรือ พี่แจ๋ม วัย 40 ปี ชาวหนองแวง ต.กุดดู่ อ.โนนสังข์ จ.หนองบัวลำภู ได้เปิดใจ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พูดถึงคนไทยที่อาศัยและทำงานอยู่ที่อิสราเอล โดยพี่แจ๋มเล่าว่า...
คนไทยที่อยู่ที่นั้นไม่มีใครคาดคิดว่ากลุ่มฮามาสจะบุกมา และใครก็คาดไม่ถึงว่าระเบิดมันจะมาทางอากาศเราไม่รู้ว่าเวลาไหนมันจะยิงเข้ามาถ้าออกมามันก็เสี่ยง แต่ที่พี่แจ๋มตัดสินใจออกไปเพราะคิดว่าเราจะนิ่งเฉยไม่ได้เพราะน้องๆเค้าให้ความหวังไว้กับเราเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเค้าแล้ว ถ้าเราไม่สนใจไม่ทำอะไรเลยด้วยความที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน น้องๆเค้าฝากความหวังไว้กับคุณ แล้วคุณจะนิ่งเฉยได้ไหมความหวังสุดท้ายในเวลาที่ฉุกเฉินแบบนี้เราต้องทำ อะไรสักอย่างเค้าเลือกที่จะให้เราช่วยพี่ก็ต้องช่วยเขาให้ได้พี่คิดไว้แค่นั้นเราต้องช่วยถึงแม้ว่าจะกลัวตอนแรกทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน
พี่แจ๋มกล่าวต่ออีกว่า..พี่แจ๋มกับพี่น้องก็ไปทุกที่ จนเราตั้งสติได้ และมีหน่วยงานรัฐโทรมาสายตรงหาเราเลยเป็นหน่วยงานของทหารบอกว่าใจเย็นๆ ตอนนี้ไม่มีหน่อยงานไหนเข้าไปในพื้นที่ได้ ถ้าไม่ใช่หน่วยงานของรัฐเอง ตอนนี้ต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อนและตั้งสติให้ดี เราก็พยายามปลอบใจพวกน้องๆว่าที่รัฐบาลอิสราเอลไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา พวกเขาอยู่ในจุดเสี่ยงช่วงที่อันตรายที่ไล่ฮามาสออกไปไม่ได้ช่วงนั้นคือทุลักทุเลมาก ทหารต้องทิ้งปืนให้แรงงานบางคนถือนึกถึงสงครามเลยคนงานก็ต้องถือปืนที่ทหารให้แล้วก็หลบซ่อนอยู่ที่สนาม
ส่วนวิธีสังเกตทหารอาหรับกับทหารอิสราเอล มันมีข้อแตกต่างอยู่ รู้ได้ด้วยภาษาที่เขาพูดสำเนียงของเขา ตอนนี้พี่แจ๋มคิดว่าช่วยเหลือแรงงานไทยไปแล้ว 90% เหลือน้องอีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในจุดเสี่ยง "นอกนั้นเค้าอาจจะไปอยู่ตามที่นายจ้างเอาตัวไปรวมกันไว้ในจุดที่ปลอดภัยแต่นายจ้างบางคน ก็กักตัวไว้เฉยๆไม่ยอมปล่อยตัวแรงงานออกมาเหมือนกับว่าไม่อยากให้คนไทยกลับมาถ้าเกิดสงครามสงบก็กลับมาทำงานหรือไม่ก็เอาไปทำงานทั้งๆที่ระเบิดลง"