เนวิน แจงชัด ทุกเสียงวิจารณ์ หลังโดนโจมตี ไม่ปล่อยตัวนักเตะไปติดทีมชาติไทย
เปิดใจ เนวิน ชิดชอบ ปธ. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลั่นไม่มีใคร ไม่รักชาติ กับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่ปล่อยตัวนักเตะไปติดทีมชาติไทยทำศึกฟีฟ่าเดย์
กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจบภารกิจฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ 2 นัดในเดือนตุลาคม ฟุตบอลทีมชาติไทย ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 19.ต.ค.66 ที่ผ่านมา โดยผลงานคือ แพ้ จอร์เจีย 0-8 และเสมอ เอสโตเนีย 1-1 ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอล เกี่ยวกับทีมชาติไทยชุดฟีฟ่าเดย์นี้ว่า ทำไมไม่มีแข้งตัวหลักติดทีมไปด้วย จนมีผลงานไม่น่าประทับใจโดยเฉพาะนัดที่โดน จอร์เจีย ถล่มขาดลอย เกมอุ่นเครื่องระดับทีมชาติที่ฟีฟ่ารับรอง ไม่สามารถเรียกนักเตะตัวหลัก หรือมีบางสโมสรที่ถึงขั้นสามารถปฏิเสธการปล่อยตัวแข้งไปติดทีมชาติไทยได้
ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มีความเคลื่อนไหวจาก นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ที่ออกชี้แจงร่ายยาว ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ BURIRAM UNITED ด้วยข้อความที่ว่า
- ถึงเวลา สู้สุดหัวใจ
- “ไม่มีใคร ไม่รักชาติ
- เรารักชาติ ไม่น้อยกว่าใคร”
- ในนามของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอชี้แจงเพียงเท่านี้
รับฟัง และอดทนต่อทุกเสียงวิจารณ์
รับฟัง ด้วยอาการสำรวม และไม่โต้ตอบ
แม้เสียงวิจารณ์จะทำให้เราเสียกำลังใจ อยู่ไม่น้อย แต่เราถอยไม่ได้ มีแต่ต้องเดินหน้าไปด้วยหัวใจที่ต้องอดทน อดกลั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำงานของเราต่อไป คือการสร้างสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดของประเทศไทย เพื่อก้าวต่อไป ในเวทีชิงแชมป์เอเชีย และการมีส่วนร่วมสร้างทีมชาติไทย เพื่ออนาคตของวงการฟุตบอลไทย ในเวทีนานาชาติ
วันนี้ ขึ้นเหนือเยือนเชียงราย ยูไนเต็ด อีกครั้งหนึ่ง
ไม่เคยง่าย และไม่เคยสบายใจ เมื่อต้องมาเยือนเชียงราย เกมกับเชียงราย ทุกเกม คือ หนึ่งในบันทึกหน้าสำคัญของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า หรือเกมเยือน เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่สร้างความหนักใจให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ตลอดมา เป็นทีมที่เราจะประมาทไม่ได้ ไม่ว่าเราจะเตรียมความพร้อมมาดีแค่ไหน อย่างไร
หากเราไม่มีสมาธิตลอด 90 นาทีเต็ม เราอาจจะต้องพบกับความเจ็บปวดได้ เหมือนที่เราเคยโดนมาแล้ว ดังนั้น ทุกวินาทีในสนาม ต้องมุ่งมั่น ต้องมีสมาธิ ต้องมีวินัย และต้องทำงานตามแผนที่เตรียมมา ตามที่ซ้อมไว้ ต้องมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
เป้าหมายวันนี้ คือ เก็บ 3 แต้ม กลับบ้านให้ได้ เพื่อเป็นกำลังให้หัวใจแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 แต้มวันนี้ มีความหมายกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาก หากเราต้องการไปให้ถึงเป้าหมายที่เราหวังไว้เมื่อถึงปลายฤดูกาล เราจะพลาดไม่ได้ รวมทั้งอีก 3 เกมที่รอเราอยู่ในสัปดาห์หน้า เราจะต้องไม่พลาดเช่นกัน
3 เกม 3 รายการ ในเวลา 8 วัน
25 ตุลาคม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่ 3 เปิดบ้านรับ เมลเบิร์น ซิตี้
29 ตุลาคม ไทยลีก รอรับการมาเยือนของ บีจี ปทุม
1 พฤศจิกายน ช้าง เอฟเอคัพ เปิดบ้านรับ การท่าเรือ เอฟซี
ในสถานการณ์ที่หนักหน่วงช่วงเวลานี้ ก็ยังมีโชคดีอยู่บ้าง ที่ 3 เกม เราได้เล่นในบ้าน ได้อยู่ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้กำลังใจเต็มเปี่ยมทุกเกมที่ลงสนาม ได้สู้ไปด้วยกันกับแฟน ๆ ในบ้านของเรา
ขอกำลังใจให้ทีมของเรา ขอเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมกันสู้ ร่วมกันแสดงพลังของพวกเราบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้เราก้าวข้ามทุกเกม ได้ด้วยชัยชนะ เพื่อที่เราจะได้ไปต่อ ทุกถ้วย ทุกรายการ
มีเท่าไร มีแค่ไหน ใส่ให้หมด ใส่ให้สุด ๆ ทั้งตัว และหัวใจ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สู้!
เนวิน ชิดชอบ
ในส่วนความเคลื่อนไหวของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทาง พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้สั่งการ ไทยลีก ประสาน 6 สโมสร ปรับโปรแกรมลีกเพื่อความพร้อมของทีมชาติไทย ก่อนเกมอุ่นเครื่องเตรียมลุยเอเชียน คัพ 2023
ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้บรรลุข้อตกลงกับ สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ JFA ในการจัดการแข่งขันฟุตบอล อุ่นเครื่อง International Friendly Match ระหว่างทีมชาติญี่ปุ่นกับ ทีมชาติไทย ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์และถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งทั้งสองชาติได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย นั้น
ล่าสุด พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม ได้สั่งการไปยัง บริษัท ไทยลีก จำกัด ให้ดำเนินการพิจารณาปรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกให้สอดคล้องและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อทีมชาติไทย เพื่อให้ทีมมีความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่น และฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย โดยให้ดำเนินการทันที
สำหรับ โปรแกรมนัดตกค้างซึ่งเดิมเลื่อนจะมาแข่งขันในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 โดยจะขอปรับโปรแกรมการแข่งขันเร็วขึ้นหนึ่งวัน คือ วันที่ 28 ธันวาคม 2566
เพื่อให้มีความเหมาะสมสำหรับนักกีฬา ในการพักฟื้น ก่อน เดินทางมารายงานตัว ฝึกซ้อม และเดินทางไปอุ่นเครื่องเพื่อเตรียมความพร้อม ตามโปรแกรมที่กำหนด
ทั้งนี้ เอเอฟซี ประกาศให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เป็น "ฟีฟ่า เดย์" โดยห้ามมิให้ประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย มีแมตช์อุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการ หลังจากวันที่ 6 มกราคม 2567 หรือ ก่อนการแข่งขันเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทีมชาติไทยชุดใหญ่ คือการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม ซี นัดแรก ทีมชาติไทย พบกับ จีน ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี