ปวดหัวไม่ใช่เรื่องเล็ก "หมอเตือน" ปวดหัว 6 แบบ อาจกลายเป็นเนื้องอก ต้องระวัง
เรื่องปวดหัวไม่ใช่เรื่องเล่นๆ "หมอประชาผ่าตัดสมอง" แนะ 6 ข้อสังเกต "อาการปวดหัว" ปวดหัวแบบไหน อันตรายอาจกลายเป็นเนื้องอกในสมอง
จากรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "หมอประชาผ่าตัดสมอง" ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ได้โพสต์คลิปให้ความรู้ถึง "อาการปวดหัว" แนะวิธีสังเกตุอาการปวดแบบไหนอาจกลายเป็นเนื้องอกสมอง เรื่องปวดหัวไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป
โดยคุณหมอได้ยกเคสผู้ป่วยชาย ชาวต่างชาติ อายุ 70 ปี มาโรงพยาบาบด้วยอาการปวดหัว ญาติให้ข้อมูลว่ามีอาการมา 2 สัปดาห์ เอกซเรย์สมองพบก้อนเนื้องอก สมองบวมมาก
ก่อนหน้าที่จะมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยกินยาแล้วอาการดีขึ้น แต่เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ อาการแย่ลง กินยาแล้วลุกไม่ขึ้น มีอาการสับสน แขนขาซีกซ้ายอ่อนแรง และทรงตัวไม่ได้ แพทย์ทำการรักษาด้วยการผ่าตัด นำก้อนเนื้องอกออก
โดย หมอประชา ได้อธิบายอาการปวดหัวซึ่งอาจเป็นอันตราย โดยให้สังเกตอาการ 6 ข้อ ต่อไปนี้
1. ความปวดมีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ปวดระดับ 5 เต็ม 10 ตอนนี้ปวดระดับ 9 เต็ม 10
2. มักปวดหัวในเวลาเช้าตรู่ ตื่นขึ้นมาปวดตอนค่อนแจ้ง หรือตื่นขึ้นมาปวดหัวตอนดึกๆ ซึ่งมักเกิดจากแรงดันสมองสูง เนื่องจากปกติเวลาหลับ คนจะหายใจช้าลง คาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นเล็กน้อย จะทำให้เส้นเลือดในสมองขยายตัว จึงเป็นสาเหตุทำให้ปวดหัวช่วงกลางดึก หรือรุ่งเช้า
3. ปวดหัวกินยา-นอนพักแล้วไม่ดีขึ้น หรืออาการแย่ลง
4. ปวดหัวแบบไม่ย้ายข้าง ปวดข้างเดียวแล้วลามไปทั้งหัว
5. ปวดหัวมีอาการร่วม ชามุมปาก มุมปากตก ปากเบี้ยวสับสน พูดไม่ชัด กลืนลำบาก
6. ปวดหัวหนักที่สุดในชีวิต แบบไม่เคยเป็นมาก่อน
นอกจากนี้ นพ.ประชา กล่าวว่า คนที่ปวดหัวถ้ามีอาการเข้าเกณฑ์ 1 อย่าง ควรไปพบแพทย์ตรวจให้ละเอียด เพราะอาจมีเนื้องอก หากใครที่มีอาการปวดหัว แต่ไม่เข้าเกณฑ์ 6 ข้อ ไม่ต้องกังวล เช่น ปวดแปลบๆ ปวดหัวข้างเดียว ปวดแบบย้ายข้างไปมา ซ้าย-ขวา หรือปวดหัวเมื่อมีประจำเดือน อาการเหล่านี้เมื่อกินยานอนพักแล้วหาย รวมถึงการออกกำลังกายทำให้ไม่เป็นซ้ำ
ขอบคุณ หมอประชาผ่าตัดสมอง