แฉแหลก! "อัจฉริยะ" ร้องกองปราบฯ ปมปศุสัตว์รับเงินใต้โต๊ะนำเข้าเนื้อเถื่อน

วันที่ 14 พ.ย. 66 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำข้อมูลบริษัทห้องเย็นในพื้นที่ภาค1 ที่มีการลักลอบนำเนื้อเถื่อนจำนวนกว่า 75 ตัน มาซุกซ่อนไว้และได้แจ้งกับทาง ปคบ. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
 

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ทาง DSI ดำเนินการไม่ตรงกับที่ได้มีการร้อง รวมถึงเรื่องการเอา ผอ.กองคดียาเสพติดมาทำคดีเนื้อหมูเถื่อนด้วย  เพราะเขาไม่ได้มีความชำนาญ ดังนั้นชุดพนักงานสอบสวนชุดนี้ถูกซื้อถูกด่าถูกกดดัน วันนี้จึงต้องออกมาร้องการทำงานของอธิบดี DSIว่าเกรงกลัวอิทธิพลของห้างสรรพสินค้าและนักการเมืองใหญ่ๆหรือไม่ 

 

นอกจากนี้นายอัจฉริยะยังได้นำหลักฐานมาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้รับทราบเกี่ยวกับการตรวจค้นตับหมูที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนจากประเทศเยอรมนีและมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำงานของทางปศุสัตว์ในการปล่อยให้มีการนำเข้าเนื้อสัตว์ปนเปื้อนได้อย่างไร
 

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะได้มีการแจ้งบริษัทห้องเย็นรายหนึ่งว่ามีการซุกซ่อนเนื้อวัวจำนวน 75 ตัน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและในวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปคบ.ตรวจผลการลักลอบ ซึ่งตัวเลขลดน้อยลงจากวันที่ตนได้มีการแจ้งให้เข้าตรวจค้นตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน นายอัจฉริยะจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าปศุสัตว์ร่วมกับกรมศุลกากรเกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนี้หรือไม่ นอกจากตนนี้ยังพบว่ามีการจ่ายเงินใต้โต๊ะการนำเข้าเนื้อสัตว์ผ่านตู้คอนเทนเนอร์ให้กับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และศุลกากร จำนวนกว่า 4,200,000 บาทอีกด้วย โดยมีหลักฐานเป็นใบเสร็จและเอกสารที่ถูกต้อง 

 

ทางนายอัจฉริยะได้ตั้งคำถามกับทางอธิบดีที่เกี่ยวข้องว่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งหลักฐานดังกล่าวทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าเป็นการทุจริตของปศุสัตว์และศุลกากรจริง พร้อมกันนี้นายอัจฉริยะยังได้เปิดรายชื่อคนที่เก็บเงินใต้โต๊ะให้กับกรมปศุสัตว์ แก่สื่อมวลชนได้ทราบอีกด้วย 

 

 

โดยนายอัจฉริยะได้กล่าวเสริมอีกว่า ตนมีหลักฐานว่าบริษัทห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ในไทย ได้มีการซื้อตับหมูจากบริษัทที่ทาง DSI ได้ออกหมายจับ ตนจึงอยากจะทราบว่าทำไมนายทุนยักษ์ใหญ่รายนี่ ถึงมีการซื้อตับหมูที่ซื้อมาจากบริษัทที่ถูก DSI ออกหมายจับ ซึ่งนายอัจฉริยะก็ได้มีการระบุชื่อบริษัทดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยต้องการให้ทางบริษัทดังกล่าวออกมาชี้แจงเรื่องนี้โดยเร็ว