"อัจฉริยะ" ร้อง บก.ปปป. เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเผยปมอธิบดี DSI โดนเด้ง
"อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" งัดหลักฐานเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ปมปล่อยเนื้อวัวหมดอายุรั่วเข้าไทย พร้อมแฉเหตุผล3ข้อเบื้องลึก ทำอธิบดีDSIเด้งพ้นเก้าอี้...
วันที่ 4 ธ.ค.66 (วันนี้) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำหลักฐาน เข้าร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ด่านชลบุรี , ด่านฉะเชิงเทรา และ ด่านท่าเรือคลองเตย และผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ และ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ฯ ในสมัยเป็น ผอ.สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ในกรณีที่ปล่อยเนื้อวัวหมดอายุและเน่าเสียมาให้คนไทยบริโภค อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้ามิชอบตามมาตรา157
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยังได้มีการเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงกรณีเหตุการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ไปดำรงตำแหน่ง เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า มี 3 สาเหตุที่ทำให้ พ.ต.ต.สุริยา ถูกโยกย้าย ได้แก่
- ประเด็นที่1 สืบเนื่องจากคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ ที่ พ.ต.ต.สุริยา และพนักงานสอบสวน DSI ได้บุกไปค้นบริษัทแม็คโคร ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นายทุนใหญ่ระดับสูงที่สุดของประเทศไม่พอใจและส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีจัดการ
- ประเด็นที่ 2 เป็นกรณีที่พนักงานสอบสวน DSI จับกุมเจ้าของเว็บพนันยูฟ่า 888 ซึ่งเป็นเว็บพนันรายใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลพรรคหนึ่งที่มีฐานเสียงอยู่ในภาคใต้ เนื่องจากพบว่าเจ้าของเว็บพนันรายนี้เป็นนายทุนใหญ่ที่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองดังกล่าว ถึง 400 ล้านกว่าบาท ส่งผลให้ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงรายหนึ่งที่มาจากพรรคการเมืองนี้ ต้องส่งคนมาเจรจา เพื่อต่อรองไม่ให้มีการยึดทรัพย์เจ้าของเว็บพนัน แต่ไม่ได้ผล
- ประเด็นที่ 3 เกิดจากความไม่พอใจของนายทุนรายใหญ่แถบจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน โดยนายทุนกลุ่มนี้นั้น มีพรรคการเมืองรายใหญ่ฟากรัฐบาลแถบภาคกลางอยู่เบื้องหลัง ถึงขนาดมีการมาเจรจาเพื่อให้ชะลอการดำเนินคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน แต่ไม่เป็นผล
โดยเบื้องหลังการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา จึงมีที่มาจาก 3 ประเด็นข้างต้น ทั้งนี้ตนมองว่า การอ้างว่า พ.ต.ต.สุริยา เป็นคนมีความสามารถจึงเหมาะสมที่จะไปนั่งรองปลัดกระทรวงนั้นเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง โดยฝากถึงนายกรัฐมนตรี กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ควรจะต้องโยกย้าย ข้าราชการระดับสูงของกรมปศุสัตว์มากกว่า เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าคนในกรมปศุสัตว์เกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าเนื้อเถื่อนโดยตรง ที่ผ่านมา ข้าราชการระดับสูงทั้งกรมประมงและกรมศุลกากรต่างก็ถูกรับผิดชอบกันไปหมดแล้ว เหลือแต่กรมปศุสัตว์ที่ยังคงเก็บเอาไว้ จึงมองว่า หากไม่โยกย้าย ข้าราชการระดับสูงของกรมปศุสัตว์ ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนก็ไม่มีทางแก้ไขได้ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบปศุสัตว์ของประเทศล่มสลายในที่สุด
อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษครั้งนี้ ไม่ส่งผลใด ๆ ต่อการดำเนินคดีหมูเถื่อน เพราะคดีดังกล่าวทำงานโดยชุด พนักงานสอบสวน DSI และมีการลงเลขคดีแล้ว ซึ่งผู้บริหารกรมไม่มีอำนาจใด ๆ ในการแทรกแซง และไม่เกินวันที่ 7 ธันวาคม 2566 จะมีการเปิดปฏิบัติการเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าหมูเถื่อนรายใหญ่อีก