ม.แม่ฟ้าหลวง ออกแถลงการณ์ ประเด็นยื่นฟ้อง ดร.เค็ง เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษา
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ออกแถลงการณ์ ประเด็นการยื่นฟ้อง "ดร.เค็ง" เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษา ยืนยันทำทุกอย่างภายใต้ขั้นตอนของกฎหมาย
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวเรื่องราวชีวิตของ "ดร.เค็ง" ที่ทาง บก.ลายจุด เล่าผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเผยว่า ดร.เค็ง ได้ทุนจากระทรวงวิทยฯ แต่มีอาการป่วยโรคจิตเวชกำเริบ ทำให้ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จนต้องลาออก ในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการใช้ทุน ทำให้ถูกมหาวิทยาลัยฟ้อง10 ล้าน เรียกเงินชดเชยทุนที่ส่งไปเรียน จนต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย
ล่าสุด ทางด้าน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ออกแถลงการณ์ชี้แจงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยื่นฟ้อง ดร.เค็ง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เรียนจบในระดับปริญญาเอกที่ขอลาออก ในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยให้ชดใช้ทุนการศึกษานับสิบล้านบาท ทั้งที่ ดร.เค็ง เจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวช นั้น
1. ดร.เค็ง เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดสำนักวิชาการจัดการ ได้เริ่มปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2548 ต่อมาได้รับทุนรัฐบาลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ให้ไปศึกษาในระดับปริญญาเอก ณ University of Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551
2. ดร.เค็ง สำเร็จการศึกษา และกลับมาปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ในระหว่างปฏิบัติงานได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 โดยให้มีผลเป็นการลาออกในวันที่ 1 กันยายน 2557 ซึ่งในการขอลาออกเป็นการแสดงเจตนาโดยสมัครใจของ ดร.เค็ง
เมื่อ ดร.เค็ง ยังคงแสดงเจตนาเดิมในการขอลาออกโดยได้รับทราบเงื่อนไขของการชดใช้ทุนแล้ว มหาวิทยาลัยจึงได้อนุญาตให้ลาออกตามความประสงค์ แต่ด้วยเงื่อนไขของสัญญา และระเบียบของกระทรวงการคลัง
เมื่อ ดร.เค็ง ปฏิบัติงานเพื่อชดใช้ทุนการศึกษาไม่ครบถ้วนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อเรียกให้ชดใช้ทุนการศึกษา ของกระทรวงวิทย์ฯ จำนวน 630,207.46 บาท กับอีก 194,730 ปอนด์ และของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจำนวน 726,305.94 บาท
3. ตามเงื่อนไขของสัญญารับทุน และหลักเกณฑ์ปฏิบัติของกระทรวงการคลัง กำหนดให้สิทธิ ผู้รับทุนที่ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทุนตามสัญญา เมื่อเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แต่ต้องแสดงหลักฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐ โดยให้แพทย์ผู้ทำการรักษาระบุว่าเหตุวิกลจริตและจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบดังกล่าว ทำให้ผู้ผิดสัญญาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติงานให้กับมหาวิทยาลัยจนกระทั่งยื่นหนังสือลาออก ดร.เค็ง ไม่เคยจัดส่งเอกสารหลักฐานทางการแพทย์ว่าไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ให้กับมหาวิทยาลัยได้รับทราบเลย
โดย ดร.เค็ง ได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ ต่างๆ ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่ แต่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาไปแล้ว ศาลปกครองเชียงใหม่จึงพิจารณาและพิพากษาให้ ดร.เค็ง ชดใช้ทุนการศึกษาตามเงื่อนไขของสัญญา
4. ดร.เค็ง ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2566 แต่เมื่อคดี อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด การไกล่เกลี่ยในชั้นศาลนี้ไม่อาจทำได้ มหาวิทยาลัยจึงไม่อาจดำเนินการใดๆ ในขณะนี้ได้
5. มหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติต่อ ดร.เค็ง ด้วยเมตตาธรรมและคุณธรรมมาโดยตลอด โดยได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ ดร.เค็ง ได้รับโอกาสไปศึกษาวิชาการในต่างประเทศตามที่ ดร.เค็ง ตั้งใจ และขอยืนยันว่าในการพิจารณาเรื่องราวของ ดร.เค็ง มหาวิทยาลัยได้ดาเนินการภายใต้ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ
อย่างไรก็ดีหากศาลปกครองสูงสุดพิจารณาพิพากษา เป็นประการใด มหาวิทยาลัยพร้อมปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ