ตะโกนลั่นก่อนมอบตัว! "หมอทหาร" ถือปืนปลอมไล่ยิงชาวบ้าน ย่านถ.ศรีนครินทร์

    สืบเนื่องจาก วันที่11 ธ.ค. 2566 (เมื่อวาน) เกิดเหตุกรณี ชายคลั่งรายหนึ่งถือปืนไล่ยิงชาวบ้านในหมู่บ้าน ย่านถนนศรีนครินทร์ เขตพื้นที่บางแก้ว จ.สมุทรปราการ โดยผู้ก่อเหตุยังหลบอยู่ในบ้านพร้อมกับอาวุธปืน ก่อนทราบภายหลังว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนแก๊ปอัดลม เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จึงได้ลงพื้นที่ปิดล้อมและอยู่ในระหว่างเจรจา กระทั่งผู้ก่อเหตุยอมมอบตัวในที่สุด หลัใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 6 ชั่วโมง

 

 

 ต่อมาทราบภายหลังว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแพทย์ทหารบก อายุประมาณ 56 ปี  ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และเคยไปปฏิบัติหน้าที่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งยังมีอาการป่วยจิตเวชนานกว่า 10 ปี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากไม่พอใจช่างก่อสร้างที่มาทำการก่อสร้างภายในหมู่บ้าน และขณะระหว่างที่เจ้าหน้าที่หว่านล้อมจะเข้าจับกุมนั้น หมอทหารผู้ก่อเหตุได้ตะโกนลั่นออกมาว่า 

 

 

"ผมไม่มีปืน ผมไม่เคยทำร้ายใคร ผมเป็นทหาร รักชาติ ไม่กลัวตำรวจ ทุกอย่างเป็นเรื่องใส่ร้ายใส่ความ ผมไม่เคยยิงใครไม่เคยทำร้ายใครครับ ผมเตรียมทหารรุ่น 26 ครับ รักชาติศาสน์กษัตริย์ ฝากถึงทุกคนด้วยนะครับคนไทยต้องรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ กตัญญู ประจานตำรวจชั่วกินส่วย … ผมไม่มีปืนอย่ามาหาเรื่องผมขอร้องล่ะ"
 

 

 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า 

    เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต และมีประวัติการรักษา ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เพื่อไม่ให้เหตุลุกลามบานปลาย ขณะเดียวกันก็ได้มีการประสานผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ และประสานไปยังตัวผู้ก่อเหตุ เมื่อผู้ก่อเหตุคลายอารมณ์ความเครียดลงไปก็เข้ามาพูดคุยและให้ความร่วมมือ และเข้ามามอบตัว จากนั้นจึงได้เข้าไปตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน ที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ โดยผู้ก่อเหตุได้พาไปทำการตรวจค้น ก็พบเป็น อาวุธปืนที่ใช้ยิง เป็นปืนแก๊ป ก็ตรงกับพยานที่บอกคือปืนสีบรอนซ์เงิน ซึ่งถือเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน และยังพบปืนอัดลมอีก 2 กระบอก กรณีสิ่งเทียมอาวุธปืนเมื่อมีไว้ในความครอบครอง ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด กรณีที่จำหน่ายเท่านั้นที่ถือว่าเป็นความผิด

 
    ในส่วนผู้ก่อเหตุก็เป็นการกระทำความผิดในเรื่องของกระทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ และผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิต กระทำการเสี่ยงจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น ก็สามารถดำเนินการได้ตาม พรบ.สุขภาพจิตมาตรา 22 กรณีที่ส่งเข้าสู่กระบวนการรักษา ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุก็นำตัวไปส่งยังสถาบันกัลยาราชนครินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ผู้ก่อเหตุทำการรักษาตัวอยู่ที่นี่ ขณะนี้กำลังเดินทางไปยังสถาบันดังกล่าว ซึ่งป่วยมานาน 10 ปีแล้ว

ภาพจาก Kijja Pongpisan