“จอย ศิริลักษณ์” เปิดไพ่ไม่เก็บค่าครู ช่วยเหลือคนทุกข์!

อีกหนึ่งดาราสาวที่หันหน้าเข้าสู่ทางธรรมอย่าง “จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ล่าสุดกลายเป็นมือใหม่ด้านการเปิดไพ่ทาโรต์ และคอยไลฟ์สดชี้แนะแนวทางให้กับผู้คนในช่องทางโซเชียล พร้อมทั้งเล่าถึงเรื่องราวการส่องพระจนสามารถเชื่อมจิตกับพระอาจารย์ได้

โดย จอย ได้เปิดใจในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกร หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงการผันตัวเข้าสู่วงการเปิดไพ่ทาโรต์

เริ่มมาเป็นหมอดู เปิดไพ่จริงจังได้ยังไง ?
“หนูใช้สมาธิในการดูจริงจัง แต่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพจริง หนูไม่ได้เปิดไพ่ส่วนตัวหรือดูเป็นอาชีพอะไร ไม่เก็บค่าครู ส่วนเรื่องที่จะดูให้คือแล้วแต่เราสะดวก เราก็จะเปิดไพ่ดูให้นะ ตามโซเชียลส่วนตัวของเรา”
 

ทำไมถึงเลือกดูเป็นไพ่ทาโรต์ ?
“ต้องบอกว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม (หัวเราะ) คือต้องบอกว่าย้อนกลับไปน่าจะเกิน 5 ปีนะคะ เคยฝัน ฝันดีมาก ฝันเห็นภาพสวยงามมากๆ เป็นเรื่องที่แปลกตามาก ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เราเจอ หรือเราจะมีเมมโมรี่อยู่แบบนั้น เห็นเป็นภาพเรือสำเภาสีทองสวยมาก และมีบอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมาก แต่เรือลำนั้นสว่างสีทองสุดๆ สวยงามเลย แล้วก็รู้สึกฝันดี และก็รู้สึกว่าอยากซื้อไพ่ทาโรต์จังเลย”

“ตอนนั้นไปห้าง ห้างจะปิดแล้ว แต่ก็อยากซื้อจนตัดสินใจซื้อเลย ก็เอามาเปิดๆ จะบอกว่าไพ่ทาโรต์เวลาเราซื้อ เขาจะไม่ให้เราดูข้างในก่อน และคิดว่าเหมือนไพ่เลือกเราด้วย ในกล่องมันจะมีภาพต่างๆ เห็นว่าเป็นแนวไหน แต่เราไม่เห็นทุกใบในนั้น แล้วพอเรากลับมาเปิดปุ๊บ ภาพแรกที่เปิดมากลายเป็นภาพที่เราเห็นในฝัน เป็นรูปเรือสำเภาตามน้้นเลย หนูก็เลยเริ่มคิดแบบเชื่อมโยงแล้วว่าหรือมันจะมีอะไร”

หลังจากนั้นทำยังไงต่อไป ทำไมถึงเชื่อเรื่องนี้ ?
“ก็อ่านความหมายในไพ่เป็นภาษาอังกฤษ สื่อความหมายว่าให้เป็นแสงสว่างให้คนอื่น เลยรู้สึกว่ามีอะไรแน่ ๆ เลยเริ่มอ่าน ๆ ตอนแรกคิดว่าเราก็เป็นคนอ่านหนังสือเยอะเหมือนกันแต่ทำไมไม่เข้าหัว หรือจะฟุ้ง ๆ คาใจมากกับการที่อ่านแล้วจำไม่ได้ เลยไปกราบพระอาจารย์ที่นับถือที่เชียงราย เลยบอกท่านถ้าหนูฟุ้งให้บอกหนูเลยตรง ๆ หนูจะได้หยุดไม่สนใจแล้ว ท่านเป็นพระวัดป่าปฏิบัติธรรมเคร่ง ท่านนั่งสมาธิและยิ้มแล้วบอกทำได้นิ แต่หนูบอกอ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลย ต้องไปลงเรียนมั้ย ท่านบอกไม่ต้องเดี๋ยวสวดให้ หนูเลยว่าให้ท่านเบิกเนตรให้หน่อย หลังจากนั้นดูได้เลย ดูได้เอง ยังไงก็ไม่ทราบ ไม่รู้จะอธิบายยังไง”

“คือหนูดูแบบไม่มีตำราอะไร พอเริ่มดูให้เพื่อน คนใกล้ชิด คนรอบข้าง เค้าบอกสิ่งที่เราแนะนำเค้ารู้สึกดีขึ้น เค้าสบายใจขึ้น เราก็ไม่รู้อะไรดลใจ หลังจากนั้นเริ่มเข้าไลฟ์บอกจะดูดวงให้ จริง ๆ ไม่มีสูตรอะไรหรอก แค่คิดว่าถ้าเราเห็นของใคร หรือสัมผัสใครก็ให้พิมพ์มาถาม แล้วหนูก็อ่านตามไพ่ ฉะนั้นการอ่านตามไพ่มันจะใกล้เคียงกับคุณหรือไม่ อันนี้คุณรู้อยู่ของคุณ อยู่ที่คุณรู้ว่ามันเป็นประโยชน์ก็เก็บไป”

ล่าสุดเห็นว่าไปส่องพระ ถึงขั้นเห็นเป็นเนื้อหนังมังสาของพระเลย ? 
“ไม่รู้ว่าส่องเป็นหรือไม่เป็น แต่เป็นคนชอบส่องพระ ที่จริงไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง มันแล้วแต่ความเชื่อ ตอนนั้นมีพี่ที่รู้จักเค้าบอกลองส่องให้หน่อยเห็นอะไรบ้าง จอยบอกส่องไม่เป็นนะพี่ เราเห็นอะไรยังไงก็พูดไปแบบนั้น เสร็จแล้วจอยก็ส่องไปที่องค์นึง เป็นพระอาจารย์โตนะคะ พอส่องไปจอยเห็นเป็นเนื้อหนังจีวรจริง ๆ จอยตกใจคิดว่าตัวเองคิดไปไกลหรือเปล่า แต่เคยมีพระอาจารย์เคยบอกว่ามีอะไรไม่ต้องสงสัย เราก็เลยรู้สึกว่าต้องบาลานซ์ เวลาเห็นอะไรที่เป็นสิ่งดีสิ่งมงคล เราเชื่อเราสบายใจก็รับไว้ เห็นมาแล้ว 2 ครั้ง เป็นสมเด็จอาจารย์โต ทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกเห็นจากส่องพระ ครั้งหลังเห็นจากการไปไหว้พระกราบพระ เงยหน้ามาก็ตกใจเหมือนเห็นเป็นเนื้อหนัง รู้สึกปิติจัง”