"อ้อ ไพรัช" เปิดใจ หลังเด็กทุบรถขอโทษ ห่วงเรื่องหลังกล้องที่หลายคนไม่รู้
อ้อ ไพรัช นักร้องชื่อดัง เปิดใจ หลังเจอเด็กเช็ดกระจกทุบรถแล้วชี้หน้าด่า ชี้ห่วงเรื่องหลังกล้อง อยากให้เด็กเขาได้ไปอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่
จากประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก่อนหน้านี้ หลังโลกออนไลน์แชร์ว่อนคลิปนักร้อง "อ้อ ไพรัช" ชื่อดังถูก"เด็กเช็ดกระจกทุบรถ" แล้วชี้หน้าด่า กลางสี่แยกอโศกมนตรี ฝั่งขาออก ระหว่างที่รถติดไฟแดง ก่อนที่ล่าสุด พม.จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของเด็กคนดังกล่าวแล้ว จึงได้ทราบเรื่องราวชีวิตทั้งหมดของเด็กชายคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวขอโทษหลังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ชี้จะไม่ทำแบบนี้อีก
โดยทางด้านไทยนิวส์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับ อ้อ ไพรัช นักร้องชื่อดังเจ้าของเพจ คนกรุงเทพ เหลา ที่ได้โพสต์คลิปดังกล่าง ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจเล่าว่า ตนใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำ เพราะพักอยู่ที่อ่อนนุช แล้วก็ชอบไปเล่นกับเพื่อนที่พระราม 3 อยู่เรื่อยๆ ซึ่งก่อนหน้านี้จริงๆ ก็เห็นน้องทำพฤติกรรมแบบนี้กับรถคันอื่น แต่เรายังไม่โดนกับตัวเราเอง
"แล้วเหตุการณ์วันนั้นคือวันที่ 21 ธ.ค. 66 เวลาประมาณ 5 ทุ่ม น้องไปเช็ดกระจกรถแท็กซี่แล้วก็ทุบตีตัวเองและทุบกระจกรถ ก็คือเพื่อที่จะได้ทิปได้เงินนี่แหละจากคนข้างในรถ พอน้องได้เงินพฤติกรรมน้องก็เปลี่ยน กลายเป็นยกมือไหว้ และดูอ่อนน้อมถ่อมตนทันที ซึ่งผมก็คิดในใจว่า เดินมารถผมแน่
แต่น้องเดินไปอีกทางหนึ่ง ผมก็คิดว่า คงไม่มาแล้วแหละ แต่สักพักนึงโผล่มาฝั่งประตูซ้าย มาเช็ด แล้วผมก็เลยหยิบกล้องขึ้นถ่าย น้องก็มองผมแบบมองค้อน มองไม่พอใจ แล้วก็ไปทุบหลังรถผม เห็นแฟนบอกนะว่าไอ่ทุบหลังรถเนี่ยแฟนบอก ผมไม่ได้ยิน แต่แฟนบอกว่าเขาทุบหลังรถก่อน แล้วก็ค่อยเดินมาหน้ารถ เหมือนตามคลิป"
แต่เมื่อ พม. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจึงได้ทราบเรื่องราว ซึ่งทาง อ้อ ไพรัช ก็ได้บอกอีกว่า จริงๆ ก็สงสารน้อง เพราะตั้งแต่วันที่ถ่ายคลิป ตนก็คิดว่าจะปล่อยคลิปหรือไม่ปล่อยคลิปดี ซึ่งตนนั่งดูคลิป 2-3 วันนะ ก่อนที่โพสต์ลงไป แต่ก็คิดในใจว่าจะปล่อยดีหรือเปล่า หรือไม่ปล่อยดี แต่พอมานั่งคิดดูแล้วคือ มันเหตุผลอะไรทำไมคนขับรถอยู่ในท้องถนนเฉยๆ ต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ซ้ำๆ ซากๆ ตนจึงอยากจะปล่อยให้สังคมเขาเห็นดู
"เผื่อมันมีการเปลี่ยนแปลงอะไร แล้วน้องอยู่ในวัยที่เรา เอาจริง ๆ ถามว่าผมเป็นคนใจเย็นไหม ผมไม่ใช่คนใจเย็นนะ แต่ผมเป็นคนเลือกมากกว่า เลือกที่จะตอบโต้กับใคร เพราะน้องยังเด็กอยู่ ผมก็ไม่รู้จะไปต่อปากต่อคำอะไรกับน้อง ผมพูดตรง ๆ นะ ผมก็เลยเลือกที่จะถ่ายคลิปเฉย ๆ ผมเห็นคำชมว่าผมใจเย็น จริง ๆ ผมไม่ใช่คนใจเย็น แค่ผมไม่รู้จะไปตอบโต้น้องยังไง เพราะน้องยังเด็กอยู่" อ้อ ไพรัช อธิบายเพิ่มเติม
ซึ่งอ้อ ไพรัช เผยต่อว่า เห็นแล้วกับคลิปที่น้องขอโทษ ซึ่งตนก็เอามาโพสต์ และตนก็อยากขึ้นไปกรุงเทพ อยากจะไปหาน้อง แล้วก็อยากจะอบรมน้องด้วยตัวเราเองที่ว่ามันพอเปลี่ยนแปลงไปได้ไหม เพราะตนได้ยินข่าวมาว่าพ่อแม่น้องติดคุกทั้ง 2 คนเลย แต่ตนก็ไม่ทราบสาเหตุว่าติดคุกเรื่องอะไร เพราะตนไม่อยากจะไปถามต่อ
"ผมอยากไปนะ เอาจริง ๆ ใจผมอยากไป เพราะว่าจริง ๆ คลองเตยคือผมสมัยเด็ก ๆ ผมก็วิ่งเล่นที่นั่น ผมรู้ว่าน้องอยู่แถว รู้สึกว่าอยู่แถว 70 ไร่หรือเปล่า ผมก็เคยไปอยู่อาศัยแถวนั้น ผมก็พอรู้ว่าคนแถวนั้นเป็นยังไง จริงๆ ก็อยากไป อยากจะไปคุย"
นอกจากนี้ อ้อ ไพรัช ยังได้บอกอีกว่า อันที่จริง ตนเป็นคนที่อยากให้ทุกคนมีงานทำ ไม่ว่าเด็ก ไม่ว่าผู้ใหญ่ ตนคิดว่าถ้าเขาฝึกทำงานตั้งแต่เด็กก็เป็นเรื่องดี แต่ว่าควรอยู่ในกรอบ ไม่ใช่ไปก้าวก่ายเขา ไปทำกิริยาแบบนั้น มันไม่ถูกต้อง ถ้าเราจะเช็ดกระจกเรามีอาชีพอย่างนี้ มันก็มีคู่คนไทยมานานใช่ไหม ควรมีมารยาท คือรถมันวิ่งไม่ว่าแยกไหนมันวิ่งทั้งวันอยู่แล้ว ค่อยๆ หาเอาไม่ต้องไปรีบหรอกว่าวันนี้ฉันจะทำแต้ม 2 พัน 3 พัน อะไรประมาณนี้ คือคนเรามันทำงานวันละ 4-5 ร้อยก็อยู่ได้แล้วนะ ถ้าอยู่ในกรอบของมัน
สุดท้ายแล้ว อ้อไพรัช เผยว่า "จริงๆ ผมอยากให้กวดขันนะ ให้เด็กเขาได้ไปอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่ คนที่จะมาขายพวงมาลัยต้องเป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะ คนไทยเชื่อเรื่องศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว เขาซื้ออยู่แล้วพวงมาลัย แล้วก็คนไทยขี้สงสาร ที่มาเช็ดกระจกยังไงเขาก็ให้ ขอแค่มีมารยาทหน่อยครับ"
ขอบคุณ คนกรุงเทพ เหลา