กาแฟร้านดัง ขอปรับราคาเครื่องดื่มทุกประเภท พร้อมเผยเหตุผลที่จำเป็นต้องทำ
ร้านกาแฟดัง "สตาร์บัคส์" ขอปรับราคาเครื่องดื่มทุกประเภท - อาหารบางรายการ บอกเหตุผลมีความจำเป็นต้องทำกาขึ้นราคา
เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาอย่างอย่างมากให้กับคอกาแฟ เมื่อกาแฟแบรนด์ดัง อย่าง สตาร์บัคส์ ซึ่งลูกค้าท่านหนึ่ง เข้าไปสอบถามยังหน้าเพจเฟซบุ๊ก Starbucks Thailand เกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาสินค้าว่า "สตาร์บัคส์จะปรับราคาหรอครับ" ซึ่งทางแบรนด์คำตอบคำถามนี้กลับทันที
โดยระบุข้อความดังนี้ "ทางเราได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะคงราคาจำหน่ายเดิมไว้เพื่อที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของเรา แต่ด้วยต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านดำเนินการและจัดการได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สตาร์บัคส์มีความจำเป็นต้องทำการปรับราคาเครื่องดื่มทุกประเภทขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.67 ในร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาในประเทศไทยค่ะ"
สำหรับ เมนูเครื่องดื่มที่จำหน่ายในร้านสตาร์บัคส์ มีหลากหลายประเภท เช่น หมวดชา TEAVANA เมนู Earl Grey, English Breakfast ร้อน ขนาด 12 ออนซ์ หรือ TALL ราคา 100 บาท ขนาด 20 ออนซ์ หรือ Venti เมนู Pure Matcha ขนาด 12 ออนซ์ ราคา 155 บาท และขนาด 20 ออนซ์ ราคา 185 บาท เมนูกาแฟปั่นอย่าง Matcha White Chocolate Affogato ขนาด 12 ออนซ์ ราคา 175 บาท และขนาด 20 ออนซ์ ราคา 205 บาท เป็นต้น
ถึงแม้ว่า กาแฟสตาร์บัคส์ จะเน้นจับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง แต่หลายครั้งที่ “ราคาสินค้า” ในประเทศไทยถูกนำมาเปรียบเทียบกับ “ค่าแรงขั้นต่ำ” ที่ผ่านมาคืออัตรา 300 บาทต่อวัน ก่อนรัฐบาลไฟเขียวขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 1 มกราคม 2567 อีก 2-16 บาท เมื่อเทียบกับราคากาแฟ 1 แก้วของแบรนด์ระดับโลก เรียกว่าเกือบกินรวบเงินค่าแรงขั้นต่ำเลยทีเดียว
ปัจจุบันร้านกาแฟสตาร์บัคส์ บริหารสิทธิ์โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ผนึกกับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ธุรกิจอาหารจากฮ่องกง “แม็กซิม กรุ๊ป"Maxim’s Group) ในการเข้าซื้อกิจการร้านกาแฟระดับโลกด้วยมูลค่า 650 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อรับสิทธิ์เป็นผู้บริหารแฟรนไชส์เพียงเจ้าเดียวตั้งแต่ปี 2562
อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจของร้านกาแฟระดับโลก สตาร์บัคส์ ภายใต้เงาอาณาจักรไทยเบฟ มีเป้าหมายใหญ่ลุยขยายสาขาไทยเพิ่มขึ้นอีกเกือบ "เท่าตัว" หรือให้ครบ 800 สาขาในปี 2573 จากปี 2566 มีร้านให้บริการ 456 สาขาทั่วประเทศ