นักกีฬาเยาวชน ม.3 ลาไปแข่งกีฬา คว้า 2 เหรียญทอง แต่กลับมาได้ 0 วิชาพลศึกษา
นักกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ม.3 ตัวแทนโรงเรียน ลาไปแข่งสนุกเกอร์ สร้างผลงาน คว้า 2 เหรียญทอง แต่กลับได้คะแนนสอบกลางภาค 0 คะแนนในวิชาพลศึกษา
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก กรณีนักข่าวสายฟุตบอลชื่อดัง อย่าง “ปูเป้” สมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ได้โพสต์เฟซบุ๊ค เล่าเหตุการณ์ที่ลูกชายของตนเองต้องติด 0 ถึง 2 วิชา หลังเป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ชีวิตนักเรียน นักกีฬา ลาโรงเรียนไปแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง เป็นตัวแทนภาค 1 ทั้ง 3 ประเภทกลับมาเรียน ได้ 0 พละศึกษาและสุขศึกษา ยอมใจ…ของขวัญวันเด็กจากครู
โดยภายหลังจากที่โพสต์ไปเมื่อวาน เพื่อนๆหลายคนเข้ามาเม้นท์ให้กำลังใจ บอก สอบตกก็ไปซ่อม สู้ๆขอบคุณมาก อันนั้นเข้าใจได้ แต่ไม่ได้สอบแล้วได้ 0 ไม่รู้จะไปสู้กับใคร แสดงว่าผมเล่าข้อมูลไม่ครอบคลุม เอาให้ละเอียดเลยละกันจะได้ไม่เข้าใจผิด
ในวันที่ 13-21 ธ.ค.66 มีการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค1 ที่นครนายก กรุงเทพมหานคร มีหนังสือขอตัว ด.ช.ลมหนาว อิศรางกูร ณ อยุธยา นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนอัสสัมชัญ เพื่อเข้าแข่งขันกีฬาสนุกเกอร์ประเภททีม,คู่และเดี่ยว15แดง
ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้รับหนังสือเซ็นอนุมัติแล้วส่งเรื่องไปยังฝ่ายวิชาการ ส่งต่อให้หัวหน้าระดับ ครูประจำชั้น ครูประจำวิชา ตามขั้นตอนเพื่อลาเรียนและให้มาสอบย้อนหลังเพราะตรงกับช่วงสอบกลางภาค
แข่งเสร็จ ได้ 2 เหรียญทอง,1ทองแดง ได้สิทธิ์ เข้าไปเล่นยช.แห่งชาติทั้ง 3ประเภท ฝ่ายวิชาการ โทรศัพท์แจ้งว่า ให้มาตามสอบ ระหว่างวันที่ 3-4 ม.ค.เพราะจะต้องส่งคะแนนเข้าระบบ
จบปีใหม่ รีบกลับมาสอบ 2 วัน 11 วิชา หนักหนาเอาการแต่ก็สู้เต็มที่ ผลสอบออกมา ผ่านบ้าง ตกบ้าง ไม่มีปัญหาที่ตกก็ไล่ซ่อมแต่มี 2 วิชา คือ พลศึกษากับสุขศึกษา ที่อาจารย์ไม่นัดหมายให้เข้าสอบทั้งที่เจอกันทุกวัน และไม่ส่งคะแนนให้วิชาการ ผลสอบออกมาเลยเป็น ศูนย์คะแนนเต็ม 20
จึงมีคำถามว่า เพราะอะไรอาจารย์ใน 2 วิชานี้จึงไม่นัดเด็กสอบ ทั้งที่วิชาอื่นซึ่งยากกว่า อย่างภาษาไทย,อังกฤษ,วิทยาศาสตร์ฯลฯ ก็นัดได้และมีคะแนนปกติ
ถ้าได้สอบ พละศึกษา ตีวอลเล่ย์เขาให้อันเดอร์แล้ว เอาเท้าไปเตะนั่นสมควรศูนย์
หรือ สอบสุขศึกษา ไปตอบคำถามว่า ถุงยางควรสวมนิ้วโป้ง ก็ควรสอบตก
อีกคำถามที่ต้องตอบให้ได้ คือ ในกรณีเดียวกัน นักกีฬาวอลเล่ย์ที่ครูทั้ง 2วิชา ไปเป็นโค้ชและแข่งรายการเดียวกัน อาจารย์สามารถส่งคะแนนได้ก่อนสอบจริงไหม?
ถ้าจริงก็บ่งบอก ว่าคุณเป็นอาจารย์ที่ขาดจรรยาบรรณแห่งความเป็นธรรมเลือกที่รัก มักที่ชัง ดูแลแต่นักกีฬาที่ตัวเองรับผิดชอบและละเลยนักเรียนคนอื่นที่เป็นลูกศิษย์เหมือนกัน
ถัาไม่จริงนักกีฬาทุกคน ทุกประเภทได้0เหมือนกันเพราะคุณไม่มีเวลาสอน ไม่มีเวลานัดสอบ ไม่มึเวลาส่งคะแนน โรงเรียนต้องไปทบทวนบทบาทครูด้านวิชาการและโค้ชกีฬาใหม่ไม่ให้ภาระหนักเกินไป
นี่คือสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ในฐานะผู้ปกครองผมมีสิทธิ์ตั้งคำถามเพราะ
1.เด็กไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียนเกรดเฉลี่ย 3กว่าตั้งแต่ป.1-ม.3 ปัจจุบันเฉลี่ย3.45 เป็นนักฟุตบอลโรงเรียนมา 7 ปีและนักสนุกเกอร์ 2 ปี ไปแข่งขันทุกรายการมีหนังสือขอตัวถูกต้อง ชัดเจน วิชาพละกับสุขศึกษาควรจะได้0 เต็ม 20 หรือ
2.ไม่ได้เรียนฟรี ไม่ได้เป็นโควต้านักกีฬา จ่ายเงินครบทุกบาท ทุกสตางค์ ปีละแสนกว่ามา 9 ปี สนิทแค่ไหน แป๊ะเจี๊ยะก็ต้องจ่ายเหมือนคนอื่น
3.ทุกงานของโรงเรียนโดยเฉพาะด้านกีฬา เอาตัวเองไปช่วยเกินร้อย ทั้งพิธีกร สื่อ บาทเดียวก็ไม่เคยคิด แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นแบบนี้
โรงเรียนต้องตอบให้ได้ว่า บุคลากร มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับที่ผปค.และนักเรียนเชื่อมั่นหรือ ไม่ม.3ไม่ให้จบไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ไม่จบไม่ได้
อัปเดตล่าสุด ในวันที่ 15 ม.ค.67 ทางโรงเรียนพร้อมแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยทาง “ปูเป้” สมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จะมาพบ ผอ.โรงเรียน ด้วยตัวเอง โดยผู้บริหารโรงเรียนทราบเรื่องแล้ว และจะดำเนินการหาสาเหตุและทางออกให้